วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Blog ไว้ดูสูตรอาหารจ๊ะ...

http://www.ucancookthai.com/language-thai/th-recipes/th-noodle/content-th-namya.htm
http://www.thaifooddb.com/index.php

www.kruaklaibaan.com
www.horapa.com

ขออนุญาตเจ้าของ Web and Blog เผื่อไว้เผื่อคอมพิวเตอร์ไม่มีภาษาไทยให้เสริ์ช หาใน google..


ขอบคุณคะ

แซนวิชทอด



ส่วนผสม
ปลาทูน่าในน้ำเกลือ 1 ถ้วยตวง
หอมใหญ่สับ 1/4 ถ้วยตวง
แครอทหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 1/4 ถ้วยตวง
มายองเนส 1/2 ถ้วยตวง
ขนมปังแซนด์วิช 10 แผ่น
ไข่ 2 ฟอง
เกล็กขนมปังป่น 2 ถ้วยตวง
พริกหวานสีเขียว 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. ผสมปลาทูน่าหอมใหญ่ แครอท มายองเนส คนให้เข้ากัน 2. ตักส่วนผสมข้อ 1 ใส่ตรงกลางขนมปังแซนด์วิช นำอีกแผ่นประกบ ใช้ไม้จิ้มฟันกลัดให้ติดกัน 3. ตีไข่พอแตกชุบขนมปังที่บรรจุไส้ไว้ แล้วคลุกเกล็ดขนมปังอีกครั้ง
4. นำไปทอดให้เหลืองทั้ง 2 ข้าง พักให้สะเด็ดน้ำมัน ดึงไม้จิ้มฟันออก
5. หั่นเป็นชิ้นบรรจุในถุงหรือห่อด้วยกระดาษไขพร้อมจำหน่าย

ขนมปังหน้าหมู (แบบไม่ต้องทอด)


เครื่องปรุง

◊ ขนมปังเป็นแผ่น ๖ แผ่น

◊ หมูบด ๒๐๐ กรัม (เปลี่ยนจากหมูเป็นกุ้ง ก็จะได้ขนมปังหน้ากุ้งค่ะ)

◊ กระเทียม พริกไทย ราก(ก้าน)ผักชี โขลกละเอียด ๒ ช้อนชา

◊ แป้งมัน ๑ ช้อนชา

◊ เกลือป่น ๑/๒ ช้อนชา (หรือซีอิ๊วขาว ๑ ช้อนโต๊ะ)

◊ ไข่ไก่ฟองเล็ก ๑ ฟอง

◊ ไข่ไก่อีก ๑ ฟองสำหรับชุบหน้าขนมปัง

◊ งาขาวหรืองาดำ ๑ ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ผสมหมูบดกับไข่ไก่ ๑ ฟอง กับกระเทียม พริกไทย รากผักชีที่โขลกแล้ว แป้งมัน เกลือ ให้เข้ากัน แล้วหมักไว้ในตู้เย็น อาจใส่ผักชีหั่นในหมูหมักก็ได้ค่ะ เพิ่มสีสัน

2. ต่อยไข่ใส่จาน ตีไข่พอเข้ากัน ไว้ชุบหน้าขนมปัง

3. ตัดขนมปังออกเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมได้ เป็น ๖แผ่นเล็กต่อ ๑ แผ่นค่ะ

4. เปิดเตาอบ ตั้งความร้อนที่ ๓๕๐ องศาฟาเรนไฮต์ค่ะ และมาทาหน้าขนมกัน เอาหมูที่ผสมทิ้งไว้แล้วมาทาหน้าขนมปัง

5. แล้วเกลี่ยให้ทั่วแผ่น ด้านเดียวค่ะ

6. แล้วเอาหน้าชุบลง ด้านมีเนื้อค่ะ

6. ชุบไข่จนเสร็จ และเรียงบนตะแกรง

6. โรยหน้าด้วยงาขาวหรืองาดำค่ะ ไม่มีหรือไม่ชอบไม่ต้องโรยก็ได้ค่ะ

7. อบนาน ๑๕ นาทีออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ กรอบเหมือนทอด แต่ไม่มีน้ำมัน ไม่อมน้ำมันค่ะ หรือถ้าจะทอดในน้ำมัน ต้องวางขนมปังทิ้งไว้ให้แห้งก่อนนำมาทาหน้า ๑ ชั่วโมง เวลาทอดจะได้ไม่อมน้ำมันค่ะ

8. เรียงใส่จานเสริฟ พร้อมน้ำอาจาด


การทำน้ำอาจาด

◊ เกลือ ๑ ช้อนชา

◊ น้ำตาลทราย ๑/๒ ถ้วยตวง

วิธีทำ

◊ เอาทุกอย่างมาผสมกัน ตั้งไฟเคี่ยวสักครู่ให้ละลาย ออกรสหวาน เค็ม และเปรี้ยว◊ หั่นแตงกวา หอมแดง พริกชี้ฟ้า (หรือพริกที่มีอยู่) ใส่ลงไป

◊ น้ำส้มสายชู ๑/๒ ถ้วยตวง

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สปาเกตตี้ไก่



ส่วนประกอบ

- เส้นสปาเก็ตตี้ 200 กรัม

- เนื้ออกไก่ 200 กรัม - เกลือป่น 1 ช้อนชา - มะเขือเทศ 4 ผล - พริกหวาน 1 ลูก

- เนยสด 4 ช้อนโต๊ะ

- หอมหัวใหญ่สับหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ

- ซอสมะเขือเทศ 4 ช้อนโต๊ะ

- ซอสปรุงรส 1ช้อนโต๊ะ

- ไวน์แดง 2 ช้อนโต๊ะ

- พริกไทย 1 ช้อนชา

- ออริกาโน 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

- นำเนื้อไก่มาบดหยาบ ใส่ซอสปรุงรส และพริกไทยเล็กน้อย หมักพักไว้

- ต้มเส้นสปาเก็ตตี้จนนุ่ม คลุกน้ำมันพืชเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ติดกัน

- หั่นมะเขือเทศ พริกหวาน และหอมหัวใหญ่เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ

- ตั้งกะทะไฟกลางใส่เนย พอเนยละลาย นำหอมหัวใหญ่ลงผัดให้หอม ใส่เนื้อไก่ ซอสปรุงรส ไวน์แดง ซอสมะเขือเทศ พริกไทย เกลือป่น ออริกาโน คลุกเคล้าให้เข้ากัน พอเดือดใส่ มะเขือเทศ พริกหวานลงไป ตักขึ้น ราดบนเส้นสปาเก็ตตี้ที่เตรียมไว้

- จัดเสิร์ฟ


Coleslaw



กะหล่ำปลี (ซอยเล็ก) 8 ถ้วย
แครอท (หั่นเล็กๆ) 1/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
เกลือ 1/2 ช้อนชา
พริกไทย 1/8 ช้อนชา
นมสด 1/4 ถ้วย
มายองเนส 1/2 ถ้วย
น้ำส้มสายชู 1 1/2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 2 1/2 ช้อนชา
เนยจืด 1/4 ถ้วย
วิธีทำ

1. ซอยกะหล่ำปลีและแครอทให้เป็นชิ้นเล้กๆ

2. ผสมน้ำตาล เกลือ พริกไทย นม มายองเนส เนยจืด น้ำส้มสายชูและน้ำมะนาวให้เข้ากัน

3. นำกะหล่ำปลีและแครอทที่ซอยแล้วมาคลุกเคล้าจนเข้ากันดี4. นำส่วนผสมที่เข้ากันดีแล้วใส่ตู้เย็นไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนเสิร์ฟ

มันบดราดซอสขาวชีสอบ



เครื่องปรุง :-
- มันฝรั่งปอกเปลือกแล้วผ่า 4 -6 หัว
- น้ำต้มมัน พอประมาณ
- นมจืดหรือครีม
1ถ้วยตวง
- เนย 6ช้อนโต๊ะ
- ลูกจันทน์บด 1/4ช้อนชา
- พริกไทยป่น พอประมาณ
- เกลือ พอประมาณ
- บร็อคโคลี่ลวก พอประมาณ
- มอซซาเรลลาชีสชนิดแผ่น 2แผ่น
- ซอสขาว พอประมาณ

วิธีทำ :-

1. ต้มมันในน้ำผสมเกลือให้สุก แต่ยังไม่เละ

2. เทน้ำร้อนออกจากหม้อให้หมด แล้วนำมันที่อยู่ในหม้อตั้งไฟต่อ เพื่อทำให้มันแห้งสนิท

3. เมื่อมันไม่มีความชื้นแล้ว ยกออกจากเตา แล้วเอาที่บด บดให้ละเอียด ลักษณะของมัน ควรจะแห้งคล้าย ๆ แป้ง

4. เมื่อมันละเอียดแล้ว อุ่นนมและเนยในอีกภาชนะหนึ่ง เมื่อเดือดค่อย ๆ เทส่วนผสมของนม และเนยลงไปในมันบด คนให้เข้ากัน หรือตีให้เข้ากัน

5. จะใส่เนยและนมน้อยหรือมาก แล้วแต่ความต้องการของผู้รับประทาน และความต้องการของลักษณะของมันบด คือว่าถ้าใส่นมน้อยก็จะอยู่ในลักษณะที่แข็ง ถ้าใส่มากก็จะเหลว

6. ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และลูกจันทน์บด รสชาติของมันบดควรจะมันเหมือนเนยกับนม และครีมที่มีรสเค็ม ๆ มัน ๆ

7. นำมันบดที่ได้มาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วใส่ลงในภาชนะสำหรับอบ เรียงบร็อคโคลี่ลงไปข้าง ๆ มันบด วางชีสแผ่นทับลงไป ราดด้วยซอสขาว นำเข้าเตาอบ ๆ จนหน้าซอสขาวเหลือง

8. ยกออกจากเตาอบ ตักใส่จานเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยเบคอนทอดกรอบ ยกเสิร์ฟร้อน ๆ

มันฝรั่งอบชีส



ส่วนผสม
เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่ 1/4 ถ้วยตวง
แป้งสาลี 2 ช้อนชา
นมข้นจืด
1/2 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
มันฝรั่งทั้งหัว 4 หัว
แฮมหั่นเส้น 1/2 ถ้วยตวง
ชีสขูดฝอย 1/3 ถ้วยตวง
ผักสลัด


วิธีทำ

1. ล้างมันฝรั่งให้สะอาดทั้งเปลือก ห่อด้วยกระดาษฟอยล์ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 350 F ประมาณ 20 นาที จนมันฝรั่งสุก

2. บีบมันฝรั่งให้แตกออกขณะที่มันฝรั่งอุ่นๆ

3. ใส่เนยสดลงในกระทะพอละลาย ใส่หอมใหญ่ลงผัดให้มีสีเหลืองและมีกลิ่นหอม

4. ใส่แป้งสาลีคนให้เข้ากัน ใส่นมข้นจืด น้ำเปล่า คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือป่น พริกไทยป่น ผัดให้เป็นครีมข้น ยกลง

5. ใส่เนยสดเล็กน้อยลงในกระทะ ใส่แฮมลงผัดพอร้อนหรือจะใช้วิธีลวกก็ได้

6. จัดผักสลัดใส่จานให้สวยงาม จัดมันฝรั่งที่อบร้อนลงในจาน ราดหน้าด้วยส่วนผสมซอสขาว (ข้อที่ 4) บนมันฝรั่ง แต่งหน้าด้วยแฮมและชีสขูด จัดเสิร์ฟร้อนๆ


หมายเหตุ

ผักสลัดที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วจัดใส่กล่องนำเข้าตู้เย็นแช่ให้ผักเย็น เมื่อนำออกมารับประทานจะได้ผักที่กรอบอร่อย

มะกะโรนีอบซอสเนื้อสับ

มะกะโรนีอบซอสเนื้อสับ
เครื่องปรุง
- มะกะโรนีรูปข้องอ 225 กรัม
- เนยสดเค็ม 4 ช้อนโต๊ะ
- พาร์มีซานชีสขูด 60 กรัม
- ลูกจันทน์คั่วป่น 1/3 ช้อนชา
- ไข่ไก่ตีให้เข้ากัน 2 ฟอง
- หอมใหญ่สับละเอียด 1 หัว
- กระเทียมบุบพอแตก 3 กลีบ
- เนื้อวัวสับ 460 กรัม
- ซอสมะเขือเทศเข้มข้น 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำสต็อกเนื้อ 6 ช้นโต๊ะ
- ไวน์แดง 2 ช้อนโต๊ะ
- พาร์เลย์สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ
- นมสดจืด 1/2 ถ้วย
- เกลือและพริกไทยปรุงรสตามชอบ
- ยอดโหระพาสำหรับตกแต่ง
- ชามอบ
วิธีทำ
1. ต้มมะกะโรนีให้สุกพอดี
2. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส 5-10 นาที
3. ตั้งกระทะด้วยไฟอ่อน จากนั้นใส่เนย 1 ช้อนโต๊ะลงไป พอเนยละลายจึงใสมะกะโรนี ตามด้วยพาร์มีซานชีสครึ่งหนึ่ง ลูกจันทน์ ปรุงรสดวยเกลือ พริกไทย ผัดจนทั่ว ผิดไฟ ตักใส่อ่างผสม จากนั้นใส่ไข่ที่ตีครึ่งหนึ่ง คนให้เข้ากัน พักไว้
4. ทำซอสเนื้อโดยตั้งกระทะด้วยไฟอ่อน ใสเนย 1 ช้อนโต๊ะ พอเนยละลาย ใส่หอมใหญ่และกระเทียมลงผัดจนหอม เร่งไฟเป็นไฟกลาง ใส่เนื้อวัวสับลงไปผัดจนสุก ตามด้วยซอสมะเขือเทศเข้มข้น น้ำสต็อกเนื้อ ไวน์แดง และพาร์สเลย์ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ลดไฟเป้นไฟอ่อน เคี่ยวต่อ 15-20 นาที
5. ทำซอสขาวดดยตั้งกระทะด้วยไฟอ่อน ใส่เนยที่เลหือลงไป พอเนยละลายจึงใส่แป้งสาลีผัดด้วยตะกร้อให้เข้ากันและข้น จึงใส่ไข่ที่เหลือ คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย
6. ตักมะกะโรนีที่ผสมไข่ครึ่งหนึ่งลงในชามอบ ราดด้วยซอสเนื้อแล้วตักมะกะโรนีที่ผสมไข่ลงอีกชั้น ราดด้วยซอสขาว โรยพาร์มีซายชีสที่เหลือ นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบ 30 นาที หรือจนหน้าเหลือง ยกอกจากเตา ตกแต่งด้วยยอด

แซนด์วิชแฮมกับไส้กรอก



เครื่องปรุง
ขนมปัง 6 แผ่น

เนยสำหรับทาขนมปัง 1 ช้อนโต๊ะ

ไส้กรอกหมู 3 แผ่น

แฮมหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก 2 แผ่น

น้ำสลัดน้ำข้น 1/3 ถ้วย

ผักกาดหอม 2 ใบ

หอมใหญ่สับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

ถั่วแขกลวกสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

แครอทลวกสับละเอียดสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ
1. ตัดขอบขนมปังออกทุกด้าน ทาเนยด้านใดด้านหนึ่งของแต่ละแผ่น

2. ผสมเครื่องปรุงทั้งหมดให้เข้ากันดี ทาลงบนขนมปังข้างที่ทาเนยไว้

3. ใส่ผักกาดหอม นำขนมปังอีก 1 แผ่นมาประกบ

4. ตัดแบ่งครึ่งตามด้านทแยง (หรือหั่นเป็นชิ้นพอดีคำสำหรับเสริฟในงานปาร์ตี้)

5. ห่อด้วยแผ่นฟิล์มใสหรือใส่ถุงพลาสติค เพื่อป้องกันขนม

มันฝรั่งสอดไส้



ส่วนผสม
มันฝรั่ง 2 -3 หัว
เนื้อหมูบด 1/2 ถ้วย
แฮมสับ 1 - 2 แผ่น
เบคอนสับ 1 ช้อนโต๊ะ
หอมหัวใหญ่สับ 1/2 หัว
กระเทียมสับ 3 กลีบ
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
เนย 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทย
ผักชีหั่นฝอย
วิธีทำ

1. นำมันฝรั่งที่ล้างทำความสะอาดเปลือกแล้ว มาปาดด้านบน คว้านเอาเนื้อตรงกลางออก ให้เหลือความหนารอบๆ สัก 1 นิ้ว ส่วนเนื้อที่คว้านออกนั้น อย่าทิ้ง ให้นำไปหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ แล้วพักไว้

2. ตั้งกระทะใส่เนย เติมหอมหัวใหญ่ลงผัดในกระทะ จนมีกลิ่นหอม แล้วจึงใส่เบคอนสับลงไปผัดด้วยกัน จะช่วยเพิ่มความหอมให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น จากนั้น นำเนื้อหมูบด แฮมสับ และมันฝรั่งที่หั่นเป็นชิ้นไว้ ลงผัดรวมกันในกระทะ

3. ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย พริกไทย ผัดจนเครื่องปรุงสุกได้ที่ แล้วยกขึ้นใส่ชามพักไว้ จากนั้นให้นำไปใส่ในมันฝรั่งที่เตรียมไว้ให้เต็ม และนำเนยมาทาบนผิวมันฝรั่งจนทั่ว จัดวางในภาชนะสำหรับเข้าเตาอบ ใช้ไฟกลาง เมื่อครบ 10 - 15 นาที ก็ยกออกจากเตา ยกเสิร์ฟร้อนๆ รับประทานได้ทันทีค่ะ

สเต็กหมูบราวน์ซอส


ส่วนผสม
เนื้อหมูติดกระดูก (พ็อคชอพ) 1 ชิ้น
น้ำมันมะกอก 1-2 ช้อนโต๊ะ
แครอท 1/2 หัว
บร็อกโคลี 3-4 ช่อ
ถั่วหวาน 5 ฝัก
พาร์สเล่สับ 1 ช้อนชา
พริกไทยป่น, เกลือป่น เล็กน้อย
ผักสลัดตามชอบ
บราวน์ซอส
วิธีทำ

1. ลวกแครอท บร็อกโคลี ถั่วหวาน พอสุกตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำแล้วนำลงผัดกับน้ำมันมะกอก ตักขึ้น

2. โรยเกลือป่น พริกไทยป่น พาร์สเลสับบนชิ้นหมู นำลงกริลล์ในกระทะที่มีน้ำมันมะกอกเล็กน้อย พอสุกตักขึ้น

3. จัดเสิร์ฟคู่กับผักลวกน้ำมันมะกอก ผักสลัด ราดด้วยบราวน์ซอส

ส่วนผสมบราวน์ซอส (Brown Sauce)
กระดูกวัว - เศษเนื้อวัว 1 กิโลกรัม
น้ำมันพืช 1/4 ถ้วยตวง
หอมใหญ่สับหยาบ 1/2 ถ้วยตวง
แครอทสับหยาย 1/2 ถ้วยตวง
ก้านขึ้นฉ่ายฝรั่งสับหยาบ 1/4 ถ้วยตวง
ก้านผักชีฝรั่งหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งสาลี 2-3 ช้อนโต๊ะ
เนื้อมะเขือเทศเข้มข้น (Tomato Paste) 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ
โรสแมรี่ 1 ช้อนชา
ใบกระวาน 3-4 ใบ
ไทม์ 1/2 ช้อนชา
น้ำสต๊อกสีน้ำตาล 10 ถ้วยตวง
ครีมข้น 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น
พริกไทยป่น
วิธีทำ

1. อบกระดูกวัวและเศษเนื้อวัวให้เหลืองเข้มเป็นสีน้ำตาล

2. ผัดหอมใหญ่ แครอท ก้านขึ้นฉ่ายและก้านผักชีฝรั่งกับน้ำมันพืช พอผักเริ่มนิ่มใส่แผ้งสาลีผัดด้วยไฟอ่อนให้แป้งเป็นสีน้ำตาล ใส่เนื้อมะเขือเทศเข้มข้นผัดต่อจนกระทั่งแห้งและมีสีน้ำตาลเข้มขึ้น ใส่พริกไทยดำ โรสแมรี่ ใบกระวาน ไทม์ กระดูกวัวและเศษเนื้อวัวที่อบไว้ ผัดให้เข้ากัน เติมน้ำสต๊อกเคี่ยวต่อจนกระทั่งงวดเหลือประมาณ 2 1/2 -3 ถ้วยตวง ยกลงกรองเอาเฉพาะน้ำซอส จะได้ซอสสีน้ำตาลข้นๆ

3. นำซอสที่ได้ขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง ปรุงรสด้วยเกลือป่น พริกไทยป่นและครีมข้น

4. จัดเสิร์ฟกับสเต็กหมู

ปูห่อเนื้อหอม


เครื่องปรุง
เนื้อปลา 150 กรัม
เนื้อปูแกะ 100 กรัม
เกลือ 1 ช้อนชา
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทย 1 ช้อนชา
หอมใหญ่ซอย 1 หัว
เนย 1 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
ฟองเต้าหู้สดสำหรับห่อ
น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
1. ปั้นเนื้อปลาและเนื้อปู พร้อมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน
2. นำมาห่อด้วยแผ่นฟองเต้าหู้ขนาดตามชอบ นำไปทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟพร้อมพร้อมน้ำจิ้มตามชอบ

ปลานึ่งเต้าเจี้ยว


ส่วนผสม


ปลาจะระเม็ดขาว 1 ตัว
เต้าเจี้ยว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป 1/2 ถ้วย
เห็ดหอมแช่น้ำหั่นบางๆ 2 ดอก
เนื้อหมูบดปรุงรส 1/4 ถ้วย
กะหล่ำปลีสด 1/2 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว น้ำมันงา และพริกไทยสำหรับปรุงรส
ก้านต้นหอม และพริกชี้ฟ้าแดงซอยสำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

1. ล้างปลาให้สะอาด บั้งให้สวยงาม และเรียงใส่ภาชนะสำหรับนึ่ง

2. ผสมเต้าเจี้ยว น้ำซุป ปรุงรส ผสมให้เข้ากัน เติมเนื้อหมูบดปรุงรสและเห็ดหอม

3. เทส่วนผสมในข้อ 2 ลงบนตัวปลา นำไปนึ่งจนสุก

4. เติมกะหล่ำปลีลวก โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยฝอย พริกชี้ฟ้าแดง และน้ำมันงา เสิร์ฟทันที

ซี่โครงหมูอบ


ส่วนผสม
ซี่โครงหมู เลือกอ่อนๆและเนื้อมาก 1/2 กิโลกรัม
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนชา
น้ำมันงา 1 ช้อนชา
ซอสห้อยสินเจียง 1 1/2 ช้อนโต๊
พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำมันหอย 1 ช้อนชา
เหล้าจีนสำหรับทำอาหาร 1 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
ต้นผักกวางตุ้งอ่อน 20ยอด
พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด
ซีอิ๊วดำอย่างข้น 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนชา


วิธีทำ

1. ล้างซี่โครงหมูให้สะอาด เอาเศษกระดูกออกใส่ชามอ่างไว้ผสมซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย น้ำมันงา ซอสห้อยสินเจียง พริกไทยป่น น้ำมันหอย เคล้าให้เข้ากัน

2. เอาซี่โครงหมูลงหมัก ประมาณ 1 ชั่วโมง จึงตักใส่ถาดที่จะอบ

3. เติมน้ำเปล่าประมาณ 1/2 ถ้วยตวง นำเข้าเตาอบประมาณ 25 นาที ก็จะสุก อบไฟกลาง เวลาอบหมั่นกลับซี่โครงหมูจะได้เหลืองทั่ว ตักใส่จาน

4. เอาน้ำใส่หม้อไม่ต้องมากกะพอท่วมผัก ใส่น้ำตาลทรายนิดหน่อย พอเดือดเอาผักกวางตุ้งลงลวกน้ำเดือด คนพอสุกทั่วเอาตะแกรงโปร่งๆตักขึ้น แช่น้ำเย็นแล้วเอาขึ้นวางข้างซี่โครงหมู5. จิ้มกับซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำส้มสายชูและพริกชี้ฟ้า

การทำน้ำสต๊อคแต่ละประเภท

น้ำสต็อค (Stock) หรือน้ำต้มกระดูก
การทำน้ำต้มกระดูกไว้ใช้เองในบ้านมีวิธีการง่ายๆ คือ ใช้กระดูก เศษเนื้อและผัก ใส่หม้อต้มเคี่ยวในน้ำด้วยไฟอ่อนๆจนกระทั่งสารอาหารจากเนื้อถูกสกัดออกมาในน้ำ แล้วกรองทำให้เย็นแล้วช้อนเอาไขมันออก น้ำสต็อกที่ได้นี้จะเป็นพื้นฐานในการทำซุปและซอสมากมายหลายชนิด สิ่งที่จะต้องให้ความสนใจคือ การเลือกเครื่องปรุงที่จะนำมาทำน้ำสต็อค ควรรู้ว่าสต็อคนั้นจะนำไปทำอะไร เช่น
//น้ำสต็อคขาว (White Stock) ใช้ทำครีมซุป ซุปใส เป็นต้น ไม่นิยมนำกระดูกแกะมาทำน้ำสต็อค เพราะกลิ่นไม่น่ารับประทาน รสชาติและความเข้มข้นของน้ำสต็อคขึ้นกับปริมาณกระดูก เศษเนื้อ น้ำที่ใช้ต้มตลอดจนเครื่องเทศและเวลาที่ใช้เคี่ยวข้อสำคัญในการทำน้ำสต็อคคือ การใช้เศษกระดูก เศษผักที่สด และล้างให้สะอาด สัดส่วนพอดีกับน้ำ ควรใช้น้ำเย็นและใช้เวลาเคี่ยวนานๆ ไฟอ่อนๆ ควรเก็บในภาชนะที่มีฝาปิดและเก็บในตู้เย็น หากเก็บในที่อุ่นน้ำสต็อคจะเสียเร็ว มีรสเปรี้ยว ถ้าน้ำสต็อคขุ่นไม่ใสให้ใช้ไข่ขาวกับเปลือกไข่ใส่ลงไป คนสักครู่ยกลง กรอง จะได้น้ำสต็อคใสขึ้นกว่าเดิมน้ำสต็อคมีชื่อเรียกตามกระดูกสัตว์ที่นำมาใช้และวิธีการทำ เช่น น้ำสต็อคไก่ทำมาจากกระดูกไก่ น้ำสต็อคเนื้อทำมาจากกระดูกเนื้อ หากนำกระดูกหมูไปอบจนเหลืองทั่วแล้วนำมาต้มจะเรียกน้ำสต็อคสีน้ำตาล ดังนั้นน้ำสต็อคจะจำแนกได้เป็น 5 ชนิด คือ
1. น้ำสต็อคสีน้ำตาล (Brown Stock)เป็นน้ำต้มกระดูกที่มีสีน้ำตาล ได้จากการอบกระดูกก่อนนำมาเคี่ยว และใส่ผัก เช่น หอมหัวใหญ่ แครอท มีเครื่องเทศคือ พริกไทยเม็ด ต้นกระเทียมและเกลือ
2. น้ำสต็อคสีขาว (White Stock)ได้จากการเอากระดูกดิบๆมาต้ม เช่นอาจะเป็นกระดูกหน้าแข้งหมู วัว กระดูกสันหลังหรือกระดูกซี่โครงก็ได้ เคี่ยวรวมกับเครื่องเทศและผักซึ่งเหมือนกับสต๊อคสีน้ำตาล กระดูกที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นกระดูกจากสัตว์ใหญ่
3. น้ำสต็อคปลา (Fish Stock)เป็นน้ำต้มกระดูกปลา อาจได้จากส่วนครีบหรือหางที่เราตัดออก และกระดูกกลางหลังของปลา เมื่อเราแร่เนื้อปลาเป็น 2 ชิ้น ซึ่งจะมีเนื้อปลาติดอยู่บ้าง หรือจะใช้หัวปลา ปลาที่ใช้นิยมใช้ปลาตาเดียว หรือปลาจำพวกปลาลิ้นหมาซึ่งมีตัวแบน ต้มกับหอมหัวใหญ่ ผักชีฝรั่ง และพริกไทยเม็ด น้ำสต็อคปลานิยมใช้ทำซอสราดเนื้อปลา
4. น้ำสต็อคไก่หรือนกป่า (Chicken Stock or Game Bird)ใช้ซี่โครงไก่ ไก่งวงหรือนกป่า รวมทั้งเครื่องในของมันด้วยมาต้ม เคี่ยวให้น้ำใส ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง อาจใช้เฉพาะส่วนขา ปีก ก็ได้
5. น้ำสต็อคผัก (Vegetable Stock)หรือน้ำต้มผัก เพราะเครื่องปรุงทั้งหมดเป็นผัก นำมาต้ม สกัดเอาความหวานของผักออกมา ฉะนั้นผักที่ใช้ต้องไม่มีรสขม เขามักใช้ หอมหัวใหญ่ แครอท ก้านขึ้นฉ่าย ต้นกระเทียม กะหล่ำปลี ก้านกะหล่ำดอก พาสนิป (Parsnip) ซึ่งมีลักษณะคล้ายหัวผักกาดขาว ชนิดของผักนี้แล้วแต่ว่าจะทำน้ำต้มผักอะไร จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยน้ำสต็อคทุกชนิดจะต้องมีการกรองเสียก่อนที่จะนำไปใช้

พาสต้าแฮมชีส


ส่วนผสม
เส้นพาสต้าต้มสุก 425 กรัม
หอมหัวใหญ่สับ 1 หัว
กระเทียมสับ 2 หัว
เห็ดฟางต้มสุก 100 กรัม
ไวน์ขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุปไก่ 1/2 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
พาเมซานชีส 1 ถ้วย
แฮมแผ่นหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 175 กรัม
วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1. ผัดหอมหัวใหญ่ กระเทียมที่สับไว้ในน้ำมันมะกอกพอมีกลิ่นหอม ใส่ไวน์ขาว ผัดให้เข้ากัน

2. ใส่แฮม เห็ดฟาง ซีอิ๊วขาว วิปปิ้งครีม น้ำซุปไก่ คนให้เข้ากัน

3. ใส่เส้นพาสต้า พาเมซานชีส ผัดให้ทุกอย่างเข้ากัน นำขึ้นตักใส่จาน จัดเสิร์ฟขณะร้อน


Tips

1. เส้นพาสต้าที่ใช้อาจเป็นพาสต้าที่ผสมด้วยแป้งโฮลวีท จะได้คุณค่าทางโภชนาการเพิ่มขึ้น

2. สามารถเปลี่ยนแฮมเป็นเนื้อสัตว์อื่นได้ตามชอบ เช่น หมู ไก่ หรืออาหารทะเล

3. ขณะที่ผัดจะมีลักษณะน้ำขลุกขลิก เมื่อเย็นแล้วจะมีลักษณะข้นขึ้นอีกเล็กน้อย

4. รสชาติมัน เค็ม กลมกล่อม

พายเลมอนอย่างง่าย



ส่วนผสม 1 ปอนด์


-คุกกี้วานิลลาตามชอบ 250 กรัม
-เนยเหลว 60 กรัม
-ไข่ขาว 3 ฟอง
-น้ำตาลทรายละเอียด 175 กรัม
-แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
-ครีมคัสตาร์ดสำเร็จรูป 1 ถ้วย
-น้ำมะนาวคั้นสด 4 ช้อนโต๊ะ
-ผงเจลาติน 15 กรัม
-กลิ่นเลมอนตามชอบ
-แยมเลมอน
-อัลมอนขูดตามชอบ

วิธีทำ

1. บดคุกกี้ให้ละเอียดนำมาเคล้ากับเนยเหลวเคล้าให้เข้ากัน

2. จากนั้นนำไปใส่ลงในพิมพ์กดให้แน่นเตรียมไว้ ผสมครีมคัสตาร์ด ไข่ขาว น้ำตาล แป้งผงเจลาติน น้ำมะนาว และกลิ่นเข้าด้วยกันแล้วตีจนขึ้นฟู

3. นำมาเทลงบนพิมพ์คุกกี้นำเข้าอบด้วยความร้อน 350 ํF ประมาณ 15 นาทีจนสุก

4. พักให้เย็นลงก่อนทาด้วยแยมเลมอนนำไปแช่ให้เย็น พร้อมเสิร์ฟ

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ปลาทับทิมม้วนผัดน้ำมันหอย


ส่วนผสม
ปลาทับทิม 1 ตัว
แครอทหั่นเป็นแท่งยาว ลวกพอสุก 1 หัว
หน่อไม้ฝรั่งตัดเป็นท่อนๆ ลวกพอสุก 5 ต้น
เกลือ 2 ช้อนชา
น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมัน 1/4 ถ้วย
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๋วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทย 1 ช้อนชา
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1. ขอดเกล็ดปลาทับทิมให้สะอาด ควักเอาไส้ออกล้างให้สะอาด

2. แล่ปลาเป็นแผ่นตามยาวของตัวปลาจนหมด นำเกลือใส่เคล้ากับปลาให้ทั่ว

3. นำปลา 1 ชิ้น วางด้วยแครอท หน่อไม้ฝรั่ง ม้วนปลาให้แน่น มัดหัวท้าย นำปลาไปนึ่งพอสุกยกลงจัดในจาน

4. นำน้ำมันใส่กระทะพอร้อน ใส่กระเทียมผัดให้หอม ใส่น้ำมันหอย ซีอิ๋วขาว น้ำตาลทราย พริกไทย ซอสปรุงรส ชิมรส เมื่อรสดีแล้วตัดราดบนปลาที่ม้วนแล้วให้สวยงาม

ฟรุตเค้กแบบง่ายๆๆๆ

ส่วนผสม
แป้งสำหรับทำเค้ก 3 1/2 ถ้วยตวง
เนยสด 1 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 2/3 ถ้วยตวง
เกลือ 1 1/2 ช้อนชา
นมสดระเหย 2/3 ถ้วยตวง
เอ็มเพล็กซ์ 1 1/2 ช้อนชา
ไข่ไก่ 6 ฟองผงฟู 1 1/2 ช้อน
โต๊ะผลไม้เชื่อมแห้งหั่นชิ้นเล็กคลุกแป้งให้ทั่ว (สับปะรด เชอร์รี่เขียว-แดง ฟักเชื่อม กล้วยตาก เปลือกส้มโอ มะตูม ฯลฯ เป็นต้น) 1 3/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. ผสมแป้ง เนยสด น้ำตาลทราย เกลือ นมสดระเหย และเอ็มเพล็กซ์ลงในอ่าง ผสมตีด้วยเครื่องตี ความเร็วปานกลาง ประมาณ 5 นาที หมั่นปาดข้างอ่างผสมและที่ตีอย่างสม่ำเสมอ
2. ต่อยไข่ใส่ลงไป ตีด้วยความเร็วปานกลางอีกประมาณ 2 นาที
3. เติมผงฟู แล้วตีดัวยความเร็วต่ำอีกประมาณ 2 นาที
4. ใส่ส่วนผสมของผลไม้ คนให้ทั่ว
5. เทลงพิมพ์ที่ทาเนยและโรยด้วยแป้งจนทั่ว นำเข้าอบไฟประมาณ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 35-40 นาที หรือจนกระทั่งสุก หมายเหตุเอ็มเพล็กซ์เป็นสารที่ช่วยให้ขนมขึ้นฟูเช่นเดียวกับ เอส.พี. มีขายตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ทั่วไป

หมี่กรอบผัดพริกไทยดำ


ส่วนผสม
เนื้อหมูหั่นชิ้นเล็ก 300 กรัม
เส้นหมี่แห้ง 200 กรัม
เต้าหู้แข็ง 100 กรัม
กุ้งสด 200 กรัม
น้ำมันพืชสำหรับทอด 1 ขวด
น้ำตาลทราย 220 กรัม
เต้าเจี้ยวโขลกละเอียด 50 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำปลา 50 กรัม
น้ำตาลปี๊บ 160 กรัม
น้ำส้มสายชูสำหรับแช่เส้นหมี่ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 50 กรัม
รากผักชี 5 ราก
กระเทียม 10 กลีบ
พริกไทยดำ 2 ช้อนชา
กระเทียมดองหั่นละเอียด 2 หัว
น้ำมันสำหรับผัด 3 ช้อนโต๊ะ
พริกแดง 10 กรัม
ผักชีเด็ดเป็นใบๆ
ถั่วงอก 300 กรัม
ต้นกุยช่าย 160 กรัม


วิธีทำ

1. โขลกกระเทียม พริกไทย รากผักชี ให้ละเอีย

2. หั่นเต้าหู้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ตากแดดให้แห้ง ทอดให้เหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน

3. นำเส้นหมี่แช่ในน้ำเปล่าพอท่วมแล้วเติมน้ำส้มสายชู ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำพอหมาด นำไปคลุกกับน้ำมันให้ทั่ว เทน้ำมันใส่กระทะมากๆ ตั้งไฟให้ร้อนจัด หยิบเส้นหมี่มาทีละน้อยโรยลงในกระทะน้ำมัน พอเหลืองทั่วดีตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน วางบนกระดาษซับน้ำมัน

4. ล้างกุ้ง ปอกเปลือก ผ่าหลังดึงเส้นดำออก

5. ต่อยไข่ตีให้เข้ากัน เทใส่กระชอบ โรยลงในน้ำมันให้เป็นฝอย พอเหลืองทั่วดี ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน

6. รวนหมูและกุ้งทีละอย่างจนแห้งมากๆ

7. นำน้ำมันใส่กระทะตั้งไฟ พอร้อน ใส่เครื่องที่โขลกผัดให้หอม ใส่น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะนาว ลงไปผัดจนน้ำตาลทรายละลาย เคี่ยวไฟอ่อนจนเหนียวเล็กน้อย ใส่หมูและกุ้งลงไป ผัดให้เข้ากันดี ใส่เส้นหมี่ลงไปคลุกให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ โรยหน้าด้วยกระเทียมดอง ไข่ฝอย ผักชี กินกับผัก เช่น ถั่วงอก ต้นกุยช่าย

ผัดเปรี้ยวหวาน


ส่วนผสม
พริกหยวก หรือพริกหวาน 2 ผล
แตงกวา 3 ผล
สับปะรด 1/4 ผล
กระหล่ำปลีหรือกระหล่ำดอก 1 หัว
มะเขือเทศ 2 ผลใหญ่
เต้าหู้ขาวอย่างแข็งตัดพอคำ 1 แผ่น

เครื่องปรุง

น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

เกลือ 1 ช้อนชา

งาคั่วบดแล้ว 1 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1. ล้างแตงกวาผ่าสี่ตัดครึ่ง พริกหยวกผ่าครึ่งเป็นเสี้ยว 1/4 นิ้ว

2. ปอกเปลือกสับปะรดเอาไส้ออก หั่นเป็นชิ้น 1 นิ้ว

3. ใส่งาคั่วผัดให้หอม ใส่เต้าหู้ผัดพอเหลือง ใส่พริกหยวก กระหล่ำผัดพอนุ่มใส่สับปะรด ใส่แตงกวา

4. ใส่มะเขือเทศผ่าเป็นเสี้ยว 1/2 นิ้ว ใส่ซีอิ๊วขาว เกลือ น้ำตาล ผักสุกตักออกใส่จาน รับประทานร้อนๆ จึงจะอ

วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ไก่ทอดกระเทียมพริกไทย


ส่วนประกอบ :

1. เนื้อไก่ 100 กรัม

2. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
3. พริกไทย 1 ช้อนชา

4. กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ

6. ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
7. ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ :

1. นำไก่หมักกับน้ำมันหอย พริกไทย 1/2 ชม.
2. นำกระเทียมเอาไปเจียวกับน้ำมันให้หอมอีกครั้งแล้วยกออก

3. นำไก่ลงไปทอดให้สุก ยกลงแล้วนำกระเทียมเจียว ผักชี ต้นหอม โรยหน้า

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

แกงไก่ใส่หน่อไม้




เครื่องปรุง


เนื้ออกไก่ 300 กรัม


หน่อไม้ซอยหั่นเส้น 1 กระป๋อง


น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ


ซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) 1 ½ ช้อนโต๊ะ


น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ


ใบโหระพา ¼ ถ้วย


ใบมะกรูด 5 ใบ


พริกสด 2 เม็ด


วิธีทำ


1. นำเนื้อไก่มาล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ ขนาดพอดีคำ


2. เปิดเตาที่ไฟแรง นำน้ำเปล่าใส่หม้อประมาณ 3 ถ้วย รอจนน้ำเดือด นำหน่อไม้เส้นลงไปต้มประมาณ 15 นาที


3. เทน้ำที่ต้มหน่อไม้ทิ้ง เปิดน้ำล้างอีกที สะเด็ดน้ำและพักไว้ จากนั้น นำใบโหระพา ใบมะกรูด และพริกสดไปล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำแล้วเด็ดใบโหระพาเป็นใบๆ ฉีกใบมะกรูดเอาเส้นกลางใบออก และหั่นพริกเฉียงๆ พักไว้


4. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง นำหัวกะทิใส่ลงในหม้อประมาณ ½ ถ้วย (ไม่ต้องคนกะทิก่อนเทนะคะ จะได้ส่วนบนเป็นหัวกะทิ) รอจนหัวกะทิเดือดก็ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไป ผัดให้น้ำพริกกับกะทิเข้ากัน รอจนกะทิแตกมัน (หมั่นคนเป็นระยะนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวก้นจะไหม้)


5. เมื่อกะทิแตกมันได้ที่แล้วจึงใส่เนื้อไก่ที่หั่นไว้ลงไป ผัดจนไก่สุก ทะยอยเติมกะทิที่เหลือลงไปครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะประมาณ 3 ครั้ง


6. นำหน่อไม้เส้นที่ต้มแล้วลงไป คนให้เข้ากัน ใส่กะทิที่เหลือลงไปจนหมด ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) และน้ำตาลทราย จากนั้น รอจนกะทิเดือดอีกครั้ง จึงใส่ใบมะกรูด ใบโหระพา และพริกหั่นลงไป คนให้เข้ากัน ปิดเตาและยกลง
7. ตักแกงเผ็ดไก่ใส่หน่อไม้ใส่ชาม จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ
Tip: อาจจะเปลี่ยนจากเนื้อไก่ไปใช้เนื้อหมูหรือเนื้อวัวแทนก็ได้ ตามความชอบค่ะ

หมูหวาน+ข้าวคลุกกะปิ




เครื่องปรุง


เนื้อหมูสามชั้น 350 กรัม


ซีอิ้วขาว 1 ½ ช้อนโต๊ะ


ซีอิ้วดำ 1 ช้อนชา


ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา


น้ำตาลปึก 3 ½ ช้อนโต๊ะ


หัวหอมแดง 3 หัว


น้ำเปล่า ½ ถ้วย


วิธีทำ


1. นำเนื้อหมูมาล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ส่วนหัวหอมแดงปลอกเปลือกแล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด จากนั้น ซอยบางๆ พักไว้


2. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง นำน้ำเปล่าใส่หม้อต้มให้เดือด ใส่เนื้อหมูลงไป พอเนื้อหมูเริ่มสุกให้ใส่เครื่องปรุงคือ ซีอิ้วดำ ซีอิ้วขาว และซอสปรุงรสลงไป


3. คนเครื่องปรุงต่างๆ ให้เข้ากัน และเคี่ยวหมูไปประมาณ 30 นาทีโดยใช้ไฟอ่อนจนหมูนุ่ม


4. เมื่อหมูเริ่มนุ่มแล้วให้ใส่น้ำตาลปึกลงไป คนให้น้ำตาลละลายและเคี่ยวต่อไปอีกประมาณ 15 นาที จากนั้น ใส่หัวหอมแดงซอยลงไป


5. คนให้เข้ากัน จากนั้นก็ปิดเตา เตรียมไว้เสิร์ฟพร้อมข้าวคลุกกะปิได้เลยค่ะ




Tip: น้ำตาลปึกควรจะใส่ทีหลังเครื่องปรุงอื่นๆ ก็เพราะว่าถ้าใส่น้ำตาลเร็วเกินไป น้ำตาลจะไปรัดเนื้อหมูจะทำให้เนื้อหมูแข็งได้




ข้าวคลุกกะปิ


เครื่องปรุงข้าวสวย 4 ถ้วย


กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ


กระเทียมกลีบใหญ่สับละเอียด 4-5 กลีบ


น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องเคียง


ไข่ไก่ 2 ฟองซีอิ้วขาว ½ ช้อนชา


แอ๊ปเปิ้ลเขียวลูกเล็ก 1 ลูก


หัวหอมแดง 3 หัว


กุ้งแห้งทอด ¼ ถ้วย


พริกสด 2 เม็ด


มะนาว 1 ลูก


ถั่วฝักยาว 8 ฝัก


วิธีผัดข้าว


1. ตั้งกะทะที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อนให้นำกระเทียมสับลงไปเจียวจนเริ่มเหลืองและหอม


2. ใส่กะปิลงไปผัดกับกระเทียม พอกะปิเริ่มละลายให้นำข้าวสวยที่เตรียมไว้ลงไปผัด (แบ่งข้าวเป็น 2 ส่วนนะคะ เวลาคลุกข้าวกับกะปิจะได้คลุกทั่วกันง่าย)


3. ผัดข้าวกับกะปิจนกะปิคลุกกับข้าวจนทั่ว ปิดเตา ยกลงและพักไว้


วิธีเตรียมเครื่องเคียง:ไข่ฝอย


1. ตอกไข่ใส่ชาม ตีไข่ให้เข้ากัน (ไม่ต้องตีให้ขึ้นฟูมาก) ใส่ซีอิ้วขาวลงไปแล้วตีให้เข้ากันซักพัก จากนั้น ตั้งกระทะที่ไฟแรง ใส่น้ำมันลงไปประมาณ ½ ช้อนโต๊ะ กลิ้งกระทะให้น้ำมันเคลือบกระทะจนทั่ว เมื่อกระทะร้อนได้ที่แล้วให้เทไข่ลงไป รีบเอียงกระทะให้ไข่กลิ้งไปจนทั่วกระทะ


2. ทิ้งไว้ซักพักจนขอบของไข่เริ่มล่อนออกจากกระทะแล้วก็ให้เริ่มม้วนไข่จนหมดแล้วตักขึ้นพักไว้


3. นำไข่ที่ได้ไปหั่นเป็นฝอยๆ แล้วพักไว้




กุ้งแห้ง


ทอดตั้งกระทะที่ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ พอน้ำมันเริ่มร้อนให้นำกุ้งแห้งลงไปทอดจนกุ้งแห้งเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลก็ตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน


ผักต่างๆ


1. ปลอกเปลือกหัวหอมแดง เด็ดขั้วพริก นำไปล้างน้ำให้สะอาด ซอยหัวหอมแดงบางๆ ซอยพริกให้ละเอียด และหั่นมะนาวเป็นซีกเตรียมไว้


2. นำแอ๊ปเปิ้ลเขียวและถั่วฝักยาวมาล้างให้สะอาด ปลอกเปลือกแอ๊ปเปิ้ลเขียว ฝานบางๆ แล้วซอยเป็นเส้นๆ นำไปแช่ในน้ำเย็นผสมเกลือป่นประมาณ ½ ช้อนชา ประมาณ 5 นาทีแล้วนำไปล้างด้วยน้ำเปล่าและสะเด็ดน้ำออกเพื่อไม่ให้แอ๊ปเปิ้ลดำง่าย


3. นำถั่วฝักยาวมาตัดหัวตัดท้ายออกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้น นำผักต่างๆ มาจัดใส่จานพร้อมเครื่องเคียงอื่นๆ เตรียมไว้สำหรับเสิร์ฟ


วิธีเสิร์ฟตักข้าวใส่จาน วางเครื่องเคียงต่างๆ ได้แก่ ไข่ฝอย กุ้งแห้งทอด แอ๊ปเปิ้ลซอย หอมแดงซอย ถั่วฝักยาวซอย และตักหมูหวานใส่ถ้วยเล็กๆ หรือจะราดลงไปบนข้าวเลยก็ได้ แล้วแต่ความชอบ จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ

วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552

ขนมครก


Ingredients (ส่วนผสม)

แป้งข้าวเจ้า (ใช้ข้าวขาวธรรมดา) อย่างดี 1/2 กิโลกรัม

หางกะทิสด 2 1/2 กิโลกรัม

น้ำตาลปี๊บ (น้ำตาลมะพร้าว) 2 ช้อนโต๊ะ


Method (วิธีทำ)

1. นำแป้งข้าวเจ้าเทลงภาชนะ ค่อยๆ เติมหางกะทิเบื้องต้นประมาณ 200 cc. คนแป้งกับหางกะทิให้เข้ากัน ถ้าแห้งไปค่อยๆ เติม และนวดจนกว่าเนื้อแป้งทั้งหมดจะเป็นก้อน มีความนิ่มของเนื้อแป้งกับหางกะทิพอประมาณ จากนั้นตักแบ่งออกไว้ต่างหาก 2 ช้อนโต๊ะ

2. นำแป้งที่เหลือนวดเข้าด้วยกันกับน้ำตาลปี๊บ โดยนำเนื้อแป้งค่อยๆ ผสมกับน้ำตาล และเหยาะหางกะทิลงไปพร้อมๆ กัน แล้วค่อยๆ นวดให้เนื้อแป้งเข้ากับน้ำตาลและหางกะทิ จนได้เนื้อแป้งผสมกับน้ำตาลปี๊บและหางกะทิจนเป็นเนื้อเดียวกัน พร้อมหยอดเป็นเนื้อขนมครกส่วนแรก


Ingredients (ส่วนผสม)

หน้าขนมครก

แป้งขนมครกที่นวดและแบ่งไว้ในส่วนที่ 1 2 ช้อนโต๊ะ

หัวกะทิสด 1 กิโลกรัม

น้ำตาลทรายขาว 300 กรัม

เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ


Method (วิธีทำ)

1. นำเนื้อแป้งที่แบ่งไว้ใส่ลงในภาชนะแล้วละลายให้เข้ากับหัวกะทิ พร้อมใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากันจนเป็นส่วนผสมเดียวกัน ส่วนผสมนี้ใช้เป็นหน้าขนมครก


วิธีหยอดขนมครก

1. ติดไฟใส่เตา (ใช้เตาถ่านขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางพอๆ กับเบ้าขนมครก) เมื่อถ่านในเตาติดไฟจนแดงหมดทุกก้อน (ควรใช้ถ่านก้อนเล็กๆ) นำเบ้าขนมครกตั้งบนเตา ใช้ลูกประคบชุบน้ำมันหมู เช็ดเบ้าขนมครกทุกเบ้าจนควันขึ้นอ่อนๆ นำลงจากเตาแล้วให้นำขี้เถ้าโรยบนเตาจนไม่เห็นก้อนถ่านจนทั่ว

2. นำเบ้าขนมครกตั้งไฟอีกครั้ง เช็ดน้ำมันออกจนเบ้าสะอาดแต่ยังมีน้ำมันเกาะอยู่ในเบ้า

3. พอร้อนได้ที่ ตักเนื้อขนมครกส่วนแรกหยอดลงเบ้า ก่อนตักให้คนเนื้อขนมครกที่เป็นแป้งละลายหางกะทิเสียก่อน เพราะเนื้อแป้งอาจนอนก้น การหยอดให้หยอดไป 3 ใน 5 ของเบ้า

4. จากนั้นหยอดส่วนที่เป็นหน้าขนมครกอีก 2 ใน 5 หรือจนเต็มพอดีกับเบ้าขนมครก เสร็จแล้วปิดฝาคอยจนเนื้อขนมครกสุก


แต่ถ้าเราต้องการใส่หน้าต่างๆ เช่น ต้นหอม ข้าวโพด มันต้ม เผือกต้ม ฝอยทอง หรืออื่นๆ ให้หยอดหลังจากหยอดเนื้อที่เป็นหน้าขนมครกส่วนที่ 2 นี่เอง


สูตรนี้จะใช้เตาถ่านและน้ำมันหมู เพื่อรสและกลิ่นของขนมครกที่ลงตัวจนเป็นสูตรเฉพาะตัวที่หลายคนติดใจ แต่ถ้าไม่สะดวกจะปรับแต่งเป็นเตาแก๊สหรือใช้น้ำมันพืชตามความสะดวกของท่านก็ได้

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน


เครื่องปรุง

๐ เนื้อหมูสับ 1/2 กิโลกรัม

๐ แผ่นก๋วยเตี๋ยวแผ่นใหญ่ 1 กิโลกรัม

๐ ซีอิ๋วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

๐ ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

๐ น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา

๐ พริกไทยป่น 1 ช้อนชา

๐ รสดี รสหมู 2 ช้อนโต๊ะ

๐ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

๐ น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

๐ แครอทหั่น (สี่เหลี่ยมลูกเต๋า) 3 1/4 ถ้วยตวง

๐ โหระพา 7 กิ่ง

๐ เห็ดหอมส่วนดอกแช่น้ำ (หั่นเส้นกว้าง 1 ซ.ม.) 1/4 ถ้วยตวง

๐ เห็ดหูหนูสดหั่น (เท่าไม้ขีดไฟ) 1/2 ถ้วยตวง

๐ ไชโป๊วหวานสับหยาบ 1/4 ถ้วยตวง

๐ ผักชีไทย 5 ต้น

๐ ผักกาดหอม


วิธีทำไส้

1. หมักหมูกับซีอิ๋วขาว รสดี พริกไทย และน้ำตาลทราย นวดให้เข้ากัน หมักไว้อย่างน้อย 15 นาที

2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอร้อน นำหมูที่หมักไว้ลงผัดพอสุก ใส่ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และรสดี รสหมูที่เหลือผัดเคล้าให้ทั่ว ใส่เห็ดหูหนู เห็ดหอม ไชโป๊ว และแครอท ผัดต่อจนเข้ากัน ชิมรสออกเค็มหวานเล็กน้อย ผัดจนน้ำแห้ง ตักใส่จานพักไว้ให้เย็น


วิธีเตรียมแป้งก๋วยเตี๋ยวและผัก

1. แผ่นก๋วยเตี๋ยวแผ่นใหญ่ 1 กก. ขนาดกว้าง 12x16 นิ้ว

2. ตั้งลังถึงให้น้ำเดือดพล่าน นำแผ่นก๋วยเตี๋ยว ทั้งแผ่นใส่ถาดนึ่งประมาณ 10 นาที ยกลงปล่อยให้เย็น

3. ผักกาดหอมตัดเส้นกลางใบออก แล้วตัดเป็นสี่เหลี่ยมขนาด 1 1/2 x 1 1/2 นิ้ว ประมาณ 1 ต้นใหญ่

4. โหระพา 7 กิ่ง เด็ดเป็นใบๆ

5. ผักชีต้นใหญ่ 5 ต้น เด็ดเป็นช่อสั้นๆ


วิธีการห่อ


1. เลือกถุงพลาสติกขนาดใหญ่กว่าแผ่นก๋วยเตี๋ยว นำมาตัดขอบออกเป็นแผ่นใหญ่ วางถุงพลาสติกคลี่ออกบนโต๊ะที่ทำสะอาดเรียบร้อย

2. นำแผ่นก๋วยเตี๋ยวที่นึ่งแล้วมาพับครึ่ง ขนาด 12 x 18 นิ้ว ตัดตรงปลายออก 4 นิ้ว จะได้ขนาด 8 x 8 นิ้ว ทำห่อแบบปอเปี๊ยะทอดจะได้ 10 ชิ้น


การห่อแบบปอเปี๊ยะ


วางแป้งลงบนแผ่นพลาสติก วางผักกาดหอมลงตรงกลาง ให้เหลือริมแป้งไว้ด้านละ 2 นิ้ว วางเรียงไส้ตามลำดับ คือ ผักกาดหอม โหระพา ผักชี วางให้เสมอใบผักกาด ตักไส้ที่ผัดไว้ใส่พอประมาณเกลี่ยให้ทั่ว พับแป้งด้านข้างทั้ง 2 ด้านมาทับบนไส้ แล้วพับแป้งด้านล่างขึ้นทับพร้อมกับลอกแผ่นพลาสติก ค่อยๆม้วนให้แน่น (แบบข้าวห่อสาหร่าย) วางเรียงบนจานเสิร์ฟ 2-3 แท่ง แล้วแต่ความต้องการ ใช้มีดหั่นตามขวางพอคำ เพื่อสะดวกในการรับประทาน


เครื่องปรุงน้ำจิ้ม

๐ พริกขี้หนูสวนสีเขียวซอย 20 เม็ด

๐ พริกขี้หนูแบบยาวสีเขียวซอย 10 เม็ด

๐ กระเทียมกลีบเล็กหั่นหยาบๆ 20 กลีบ

๐ ใบโหระพาซอยหยาบๆ 1/2 ถ้วยตวง

๐ น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยตวง

๐ เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

๐ น้ำเชื่อม (น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง ต้มจนน้ำละลาย พักให้เย็น)


วิธีทำน้ำจิ้ม


ปั่นกระเทียม ใบโหระพา พริกขี้หนูทั้งหมดให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่ในชาม เติมน้ำเชื่อม เกลือ คนให้เกลือละลาย ชิมรสเปรี้ยวเค็มหวาน


** น้ำจิ้มสามารถทำไว้ล่วงหน้าได้ โดยใส่ขวดแก้วแช่ในตู้เย็น รุ่งขึ้นน้ำจิ้มจะเข้มข้น ไม่มีกลิ่นใบโหระพา รวมทั้งใช้เป็นน้ำจิ้มอาหารทะเล นึ่ง ย่างได้ด้วย

เมี่ยงปลาทู



ส่วนผสม


ปลาทูทอด 2 ตัว


เส้นขนมจีน 300 กรัม


น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ


พริกขี้หนู 1 ช้อนโต๊ะ


น้ำมะนาว 2 1/2 ช้อนโต๊ะ


น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา


กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ


ผักกาดหอม, ต้นหอม, ผักชี




วิธีทำ
-
โขลกพริกขี้หนูกับกระเทียมพอหยาบ ตักใส่ภาชนะ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบ
- จัดเสริฟโดยวางเส้นขนมจีน และปลาทูทอดบนผักกาดหอม ราดน้ำยำ รับประทานเป็นคำ แกล้มด้วยต้นหอม ผักชี

หมูย่าง+ปิ้ง หมักพริกแกงพะแนง


ส่วนผสม


หมูเนื้อแดงติดมันบ้าง 500 กรัม

กะทิกล่อง (250 กรัม) 1 กล่อง

น้ำปลาดี 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา


วิธีทำ


1. นำน้ำพริกแกงที่โขลกไปผัดกับกะทิจนหอม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบ ยกขึ้นพักไว้ให้เย็น

2. ล้างเนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นพอคำ นำเครื่องแกงที่ผัดปรุงรสแล้วมาหมักกับเนื้อหมูประมาณ 1 ชั่วโมง หมักไว้ในตู้เย็น จึงนำออกมาเสียบไม้แล้วนำไปย่างไฟอ่อนๆ จนหมูสุกทั้งสองด้าน


ส่วนผสมน้ำพริกแกง


พริกขี้หนูแห้งเด็ดขั้วแช่น้ำจนนิ่ม 20 เม็ด

หอมแดงปอกเปลือก 3 หัว

กระเทียมแกะเปลือก 1 หัว

ตระไคร้หั่นฝอย 2 ต้น

กะปิดีเผาไฟ 1 ช้อนชา

ยี่หร่าคั่วป่น 1 ช้อนชา

รากผักชี 3 ราก

พริกไทยเม็ด 10 เม็ดลูก

ผักชีคั่วป่น 2 ช้อนชา

เกลือป่น 1/2 ช้อนชา


วิธีทำ


นำเครื่องปรุงทั้งหมดโขลกให้ละเอียด

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

เค้กผลไม้




เค็กผลไม้


ส่วนผสม


แป้งขนมปัง 460 กรัม


แป้งเค็ก 150 กรัม


ผงฟู 2 ชช.


ผงโซดา 2 ชช.


เนยสด 300 กรัม


น้ำตาลทรายแดง 200 กรัม


น้ำตาลทราย 200 กรัม


เกลือ 2 ชช.


น้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อม 60 กรัม


ไข่ไก่ 8 ฟอง


นมข้นจืด 1 ถ้วยตวง


ผลไม้แช่อิ่มตามใจชอบหั่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ หมักกับเหล้ารัม แยมผิวส้มหมักไว้ประมาณ 4 วัน ก่อนนำมาใช้ 900กรัม


เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ 100 กรัม




วิธีทำ


ร่อนแป้งทั้งสองชนิดรวมกับผงฟู พักไว้ตีเนยกับน้ำตาลทรายแดง น้าตาลทรายขาว โซดา เกลือจนขึ้นฟู หมั่นปาดครีมจากก้นอ่างอยู่เรื่อยๆ




ตีประมาณ 15 นาที แล้วค่อยๆเทน้ำผึ่งลงไปในอ่างผสมตีจนเข้ากันดีแต่อย่าให้นานมาก




แปดฟองใส่ในชาม คัดเอาแต่ไข่แดงใส่ลงไปก่อน แล้วค่อยใส่ไข่ขาวที่เหลือตามลงไปตีด้วยความเร็วปานกลางในทุกขั้นตอน จนเข้ากันดีพอเข้ากันดีแล้วเทออกจากอ่างผสม ลงในภาชนะที่เตรียมใว้ใส่แป้ง คนด้วยมือให้เข้ากัน สลับกับนมข้นจืด คนจนเข้าไม้แช่อิ่ม และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ที่อีกครั้งหนึ่ง ตักใส่พิมพ์ที่ทาเนยขาว รองด้วยกระดาษไขนำไปอบ ที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ประมาณ 35 นาทีหรือจนกว่าจะสุกวิธีเช็คดูว่าเค็กสุกได้ที่แล้ว คือใช้ไม้จิ้มลงตรงกลางเค็กแล้วไม่เปียกขอบรอบๆพิมพ์เค็ก ไม่ติดพิมพ์ เป็นอันใช้ได้ วางบนตระแกรงพักเค็ก ตั้งพักไว้ให้เย็น


ผิวส้มบางๆ ตกแต่งด้วยผลไม้แช่อิ่มตามใจชอบค่ะ

เค้กกล้วยหอม


เค็กกล้วยหอม

ส่วนผสมที่ต้องเตรียม

แป้งเค็ก 430 กรัมผงฟู 2 ชช.

ผงโซดา 1 1/2 ชช.

เกลือป่น 1 ชช.ทั้งหมดนี้ร่อนผ่านตระแกรงร่อนแป้งรวมกันแล้วพักไว้

เนยสด 400 กรัม

น้ำตาลทรายขาวชนิดเม็ดเล็ก 370 กรัม

ไข่ไก่ 6 ฟอง

นมข้นจืด 1 ถ้วย

**กล้วยหอมสุกงอม 4 ลูกบดในชามอ่างให้ละเอียดพักไว้กลิ่นวนิลา 1 ชช. เทลงไปในอ่างกล้วยหอมได้เลย

**วิธีทำตีเนยกับน้ำตาลในอ่างผสม จนขึ้นฟูขาวใช้เวลาประมาณ 15 นาที

**ตีจนขึ้นฟูขาว ระหว่างตีก็หมั่นปาดครีมจากขอบอ่างผสมให้ถึงก้นอ่างผสมด้วยพายยาง เพื่อให้ส่วนผสม

เข้ากันเป็นระยะ

**หลังจากนั้นก็ค่อยๆใส่ไข่ลงไปทีละฟอง จนครบ ตีให้เข้ากันดีก่อน ด้วยความเร็วปานกลางแล้วจึงค่อยๆเทกล้วยหอมบดลงในอ่างผสม ตีต่อไปจนเข้ากันสักครู่ แต่ไม่นานจนเกินไปเอาแค่พอเข้ากันจากนั้นใส่แป้งที่ร่อนรวมไว้กับผงฟู ผงโซดา เกลือ ใส่ลงไปสลับกับนม คนเบาๆให้เข้ากันดีจนหมดเริ่มด้วยตักแป้งใส่ลงไปคนเบาๆ พอเริ่มเข้ากันเติมนม สลับด้วยแป้ง และจบลงด้วยแป้ง เป็นอันเสร็จ

**อุ่นเตาอบไว้ในอุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียสจนคงที่ ก่อนนำเข้าอบ 15 นาทีตักลงใส่พิมพ์ขนม ที่ทาเนยขาวไว้บางๆนำเข้าอบไฟ 175 องศาเซลเซียส สำหรับเค็กถ้วยประมาณ 15 นาทีส่วนเค็กในถาดสี่เหลี่ยมตามภาพ ใช้เวลา 25 - 30 นาที

ขนมตาล


ส่วนผสม


ลูกตาลสุก 1 ผล
ข้าวสารเก่า 2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้าวท้าวยายม่อม 1/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 2 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1 ช้อนชา


วิธีทำ
1.ลอกเปลือกลูกตาลออกให้หมด ขูดเอาเนื้อสีเหลืองออก ตัวลูกตาลแช่น้ำไว้จนเนื้อลูกตาลละลายออกหมด ใช้ผ้าห่อเนื้อลูกตาล และน้ำที่ละลายผูกมัดปากรวมไว้ให้แน่นแขวนหรือทับไว้ให้แห้ง
2.โม่ข้าวสารที่แช่น้ำไว้ให้ละเอียด แล้วทับให้แห้ง 3.ผสมข้าวสารที่โม่และทับจนแห้งแล้ว รวมกับแป้งท้าวยายม่อม และลูกตาลที่ทับจนแห้งแล้วนวดส่วนผสมทั้งหมด เข้าด้วยกันจนแป้งที่ผสมเนียนและนุ่มมือ(ประมาณ 30-60 นาที)ใส่น้ำตาลสลับกับหัวกะทิ นวดจนหัวกะทิและน้ำตาล ละลายหมด พักไว้ประมาณ 5-10 ชั่วโมง 4.ตักแป้งที่ผสมแล้วใส่กระทงหรือถ้วยตะไล โรยมะพร้าว แล้วนึ่งให้สุกยกลงถ้าใส่ถ้วยตะไลรอให้เย็นก่อนแล้วจึงนำออกจากถ้วยจัดใส่ภาชนะ

วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552

น้ำจิ้มซีฟู้ดส์

สูตรน้ำจิ้มซีฟู้ด สูตร 1 อาหารทะเลทั่วไป อยากจิ้มอะไรก็จิ้ม
พริกขี้หนูสวนสีเขียวและแดง 19 เม็ด
พริกขี้หนูสีเขียวเม็ดใหญ่ 6 เม็ด
พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่่ 15 เม็ด
กระเทียมแกะเปลือก 1/2 ถ้วยตวง (อย่าขี้เกียจแกะนะ)
รากผักชีขนาดกลางๆหั่น 1 ช้อน
เกลือทะเลเน้นทะเล 1 ช้อนโต๊ะ 1 ช้อนชา
อิอิอิน้ำตาลทรายนะจ๊ะ 2 ช้อนโต๊ะ 1 ช้อนชา
**อยากได้หวานกว่านี้ก็ได้แล้วแต่คน สำหรับคนหวานน้อย ก็ใส่เยอะๆจะได้หวานๆ
น้ำมะนาว 1/2 ถ้วย หรือเยอะกว่า ระวังเปรี้ยวแก้ไม่ได้เน้อ
น้ำต้มสุก 1/2 ถ้วย

วิธีทำ
หาเครื่องปั่นเครื่องบด มา 1 เครื่อง เสียบปลั๊กกัับพริกที่เป็นตัวประกันทั้งหมด โยนมันลงไปตามด้วยตัวประกันที่เหลือ ได้แก่ กระเทียม รากผักชี เกลือ น้ำตาล มะนาวแล้วบันเลงประหารชีวิตมันทั้งหมดแต่อย่าให้มันไม่เหลือซากนะ แค่พอหยาบๆ แล้วจัดการหาอ่างหรือกะละมังใส่น้ำสุกลงไปผสม แล้วจัดการหาไม้พาย หรือช้อนก็ได้นะ ถ้ายุ่งยาก คนให้เข้ากัน ชิม ครับ ที่นี้ก็จัดการชิม ว่ารสชาดต้องเปรี้ยว เค็ม หวานเล็กๆ อย่าหวานใหญ่่ๆนะ แค่นี้ คุณก็จะได้ น้ำจิ้ม เลิศศศศศศศ ไว้จิ้ม อาหารทะเล

น้ำจิ้มสุกี้

น้ำจิ้มสุกี้ส่วนผสม
เต้าหู้ยี้ชนิดแดง 4 ชิ้น
กระเทียมดองหั่นบางๆ 2 ชต
น้ำส้มสายชู 6 ชต
น้ำตาลทราย 2 ชตเกลือป่น 1 ชช
พริกชี้ฟ้าแดงป่นละเอียด 2 ชต
งาขาวคั่วเหลืองบุพพอแตก 1/2 ชต
ผักชีหั่นฝอย 1 ชต
น้ำต้มเนื้อ 2 ชต
วิธีทำ
1. นำกระเทียมดองมาโขลกให้ละเอียด ใส่พริกชี้ฟ้าแดงและเต้าหู้ยี้โขลกรวมกันให้ละเอียด
2. ใส่น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย เกลือป่น และน้ำซุป คนให้เข้ากัน ใส่ผักชี งาขาวคนให้ทั่ว

สูตรน้ำจิ้มสุกี้ เอ็มเเเค
ซอสพริกศรีราชา (รสเผ็ดกลาง) 5 ชต
น้ำตาลทราย 1 ชต
น้ำปลา 2ชต
น้ำมันหอย 2 ชช
งาขาวคั่ว 1/2 ชต
น้ำมันงา 1ชต

เอาส่วนผสมทั้งหมดตั้งไฟ ยกเว้น งาขาวคั่วกับน้ำมันงา คนให้เข้ากัน ยกลง ใส่น้ำมันงา และงาขาวคั่ว ตามด้วยผักชีหั่นโรยหน้า ใส่กระเทียมสับ พริกขี้หนู มะนาว ตามชอบสูตรนี้สำหรับ 1 คนจ๊ะ เพิ่มสูตรเอาตามเหมาะสมนะจ๊ะ เพราะเพื่อนพี่สาวให้สูตรมาแบบนี้ เคยทำทานแล้วก็พอปลื้มแหละน้อง....

รวม Web ทำอาหาร

www.thaigoodview.com

www.kruaklaibaan.com

ส่วนตัวเจ้าของเวบคะ....เอาไว้ดูเผื่อไม่มีโปรแกรมภาษาไทยให้ใช้ ยังไงก้ออนุญาตเจ้าของ link ไว้ ณ ที่นี้ด้วยละคะ

น้ำพริกไก่นึ่ง

เครื่องปรุง

เนื้ออกไก่ 1 / 2 ถ้วย
มะเขือยาวลูกเล็ก 1 ลูก
พริกชี้ฟ้าเขียว แดง เหลือง 6 - 8 เม็ด
หอมแดงเผา 6 หัว
กระเทียมเผา 2 หัว
น้ำปลาดี 3 - 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 - 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. นึ่งเนื้ออกไก่ให้สุกหั่นเป็นชิ้น ๆ โขลก
2. เผาพริก หอม กระเทียม มะเขือยาว ปอกเปลือกแล้วนำไปโขลก ใส่เนื้อไก่โขลกให้เข้ากัน
3. ปรุงรสด้วย น้ำปลา มะนาว ไม่ต้องใช้น้ำตาล เพราะมะเขือยาวจะมีรสหวานอยู่แล้ว ชิมรสตามชอบโรยด้วยงาคั่ว รับประทานกับ ผักต้ม ผักสด และไข่เค็มหรือไข่ต้ม

น้ำพริกเนื้อแดดเดียว

เครื่องปรุง

เนื้อเค็มย่าง (ฉีกเป็นเส้นฝอย) 3ช้อนโต๊ะ
กะปิดีห่อใบตองเผาไฟ 1ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวน 15เม็ด
กระเทียม 1หัว
มะอึก 1ลุก
มะเขือพวง 10เม็ด
น้ำมะนาว น้ำปลาดี น้ำตาลปี๊บ ตามสมควร

วิธีปรุง
นำกะปิดี กระเทียม พริกขี้หนูสวน เนื้อเค็ม มะอึกขูดขนแล้วหั่นละเอียดก่อนใส่ครก โขลกให้ละเอียด ใส่มะเขือพวงลงโขลกพอบุบไม่ต้องละเอียดนักคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย ปรุงรสด้วยน้ำปลาดี น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ ชิมรสให้เข้มข้น รับประทานกับผักสดๆ เช่น ยอดกระถิน แตงกวา ยอดชะอม มะเขือ ถั่วฝักยาว ขมิ้นขาว ถั่วพู สะตอ หรือจะคลุกเคล้ากับข้าวสวยร้อนๆ ก็ได้

น้ำพริกหนุ่มหมูสับ

เครื่องปรุง

หมูสับหรือหมูบด 1 / 2 ถ้วย
พริกหนุ่ม 12 - 15 เม็ด
มะเขือเทศ 5 - 7 ลูก
กระเทียม 5 หัว
หอมแดง 5 หัว
ปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1 - 2 ช้อนชา
น้ำปลา 2 - 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 - 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. เผาพริกหนุ่ม หอม กระเทียม
2. ปลาร้าเลาะเอาแต่เนื้อสับให้ละเอียด
3. โขลกพริก หอม กระเทียม ให้ละเอียด ใส่มะเขือเทศ ลงโขลกด้วย ปรุงรส น้ำตาล น้ำปลา
4. ตั้งกะทะ ใส่หมูลงผัด ใส่เครื่องน้ำพริก ใส่ปลาร้า ผัดจนสุกปิดไฟ ใส่น้ำมะนาว ยกลง ชิมรสตามชอบ รับประทานกับผักสด ผักทอด แคบหมู หมูทอด

น้ำพริกหนุ่มสูตรดั้งเดิม

เครื่องปรุง

พริกชี้ฟ้าปิ้งไฟฉีกเป็นเส้น 20เม็ด
เกลือป่น 1ช้อนชา
ผงชูรส (หรือน้ำตาลทราย) 1ช้อนโต๊ะ

วิธีปรุง
นำพริกชี้ฟ้าที่ฉีกไว้ใส่ครก โขลกเบาๆ จนพริกนุ่มและเหลว โรยเกลือป่นคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่ผงชูรสหรือน้ำตาลทรายเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ชิมรสตามต้องการ รับประทานกับข้าวเหนียว หรือเนื้อเค็มย่างหรือถ้าไม่ชอบรับประทานกับผักสด ผักลวก หรือข้าวสวยร้อนๆ ก็ได้ไม่ผิดกติกาหรือหมูหวาน หรือกุ้งแห้งหวานก็อร่อยเด็ดแล้ว

น้ำพริกมะม่วงเปรี้ยว

เครื่องปรุง

มะม่วงดิบ (เปรี้ยวๆ) 1ผล
กุ้งแห้งป่น 1/2ถ้วย
พริกขี้หนูสวน 15เม็ด
กะปิดีห่อใบตองเผาไฟ 1ช้อนโต๊ะ

วิธีปรุง
ปอกมะม่วงแล้วสับๆ ซอยละเอียดโขลกกับพริกขี้หนูที่เด็ดก้านออกแล้ว กระเทียม กะปิดีเผา ให้พอหยาบๆ ไม่ต้องละเอียด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ เติมน้ำสุกเล็กน้อย ชิมรสตามต้องการ เสร็จตักใส่ถ้วย รับประทานกับผักสดหรือข้าวสวยร้อนๆ หรือหมูหวาน หรือกุ้งแห้งหวานก็อร่อยเด็ดแล้ว

น้ำพริกปลาทูทอด

เครื่องปรุง

ปลาทูทอด 2 ตัว
หอมเผา 5 - 7 หัว
กระเทียมเผา 2 หัว
พริกชี้ฟ้าเขียว แดง เหลือง เผา 6 - 8 เม็ด
น้ำปลา 2 - 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1 ช้อนชา
น้ำมะนาว 2 - 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำสุก 2 - 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. โขลกพริกชี้ฟ้า หอม กระเทียม (ถ้าชอบเผ็ดให้เผาพริกขี้หนูเพิ่ม แล้วโขลกพร้อมกัน)
2. ปลาทูแกะเอาแต่เนื้อ ใส่ลงโขลกกับเครื่องน้ำพริก ปรุงรสด้วย น้ำตาล น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำต้มสุก ชิมรสดู ถ้าปลาทูเค็มอาจใช้น้ำปลาน้อย
3. รับประทานกับ ผักสด ผักต้ม หรือ ผักดอง เข่น ผักเสี้ยน ถั่วงอก หรือ ต้นหอม

น้ำพริกปลากระป๋อง

เครื่องปรุง

ปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศ 1 กระป๋อง
หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. เทปลากระป๋องใส่หม้อ ยีเนื้อปลา ตั้งไฟต้มให้เดือด
2. ยกลงจากเตา ใส่หอมแดง พริกขี้หนู เคล้าให้ทั่ว ปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาว หรือจะโรยพริกป่นด้วยก็หอมดี
3. เสิร์ฟกับผักต้ม เช่นมะเขือเปราะ ดอกแค ยอดแค ผักบุ้ง ฟักทอง มะระอ่อน

น้ำพริกถั่วปลานึ่ง

เครื่องปรุง
พริกแห้ง 5 เม็ด
ถั่วลิสงคั่ว 1 / 2 ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียม 1 หัว
น้ำตาลปีบ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
ปลาสำลี หรือปลาช่อนตัวกลางๆ 1 ตัว
ผักกาดหอม 3 ต้น
ตั้งโอ๋ 5 - 6 ต้น
ต้นหอม 5 ต้น
แตงกวา 6 - 7 ลูก
ผักชี 2 - 3 ต้น

วิธีทำ
1. ตำพริกกับเกลือให้ละเอียด ใส่กระเทียม ใส่ถั่วลิสงโขลกให้ถั่วแตกไม่ต้องละเอียดนัก ใส่น้ำตาลปีบ น้ำมะนาว ตักออกใส่ชาม ชิมรสเผ็ด เปรี้ยว หวาน ให้กลมกล่อม
2. ขอดเกล็ดปลาขูดเมือกเอาไส้ออก ล้างน้ำเช็ดให้แห้ง ทาปลาด้วยน้ำมะนาว ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ให้ทั่วตัวปลา ตำกระเทียม 1 หัว ใส่เข้าไปในท้องปลา ตั้งลังถึงให้น้ำเดือด วางปลาลงในจาน ยกใส่ในลังถึงขณะที่น้ำเดือด นึ่งประมาณ 20 นาที หรือจนปลาสุก จึงเอาออก
3. ล้างผัก ตัดราก ผักกาดหอมเอาออกเป็นใบๆ หั่นแตงกวาเป็นแว่นหนาๆ วางผักกาดหอม ตั้งโอ๋ ผักชี ต้นหอม และแตงกวาลงในจานเปล และวางปลาลงในจานวางถ้วยน้ำพริกลงข้างจานเป็นใช้ได้

น้ำพริกกุ้งสดสูตร 2

เครื่องปรุง
เนื้อกุ้งนางสับ 1 / 2 ถ้วย
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียม 6 - 8 กลีบ
พริกขี้หนู 8 - 10 เม็ด
มะเขือพวง 2 ช้อนโต๊ะ
มะอึกซอย 1 ช้อนโต๊ะ
มะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 1 ช้อนชา
น้ำปลา 1 - 2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. เนื้อกุ้งนางสับกึ่งหยาบกึ่งละเอียด
2. กะปิห่อเผาไฟให้หอม
3. โขลกพริกขี้หนู กระเทียม ให้พอแหลก ใส่มะเขือพวงบุบพอแตกใส่กะปิ เนื้อกุ้งนาง เคล้าให้เข้ากัน ใส่มะอึก น้ำตาล น้ำปลา มะนาว ชิมรส ตามชอบ
4. เสิร์ฟพร้อมผักสด ผักราดกะทิ และกุ้งนึ่ง

สูตรพุดดิ้งแบบไม่ต้องเอาเข้าตู้อบ




สูตรพุดดิ้งแบบไม่ต้องเอาเข้าตู้อบ สูตรที่1 สูตรพุดดิ้งมะม่วง
ส่วนผสม


1-นมสด 2 dl


2-น้ำมะนาว 1/2 dl


3-น้ำตาลทราย 1 ถึง 1 1/2 dl. ถ้าไม่ชอบหวาน ให้ลดน้ำตาล


4-น้ำผึ้ง 2 ชต.


5-เนื้อมะม่วงสุก ชนิดหวาน 1 ลูกใหญ่ ราว 3 dl.


6-แผ่นเจลาติน 3 แผ่น 1/2 ครึ่ง (1 1/2 dl. เท่ากับ 1 แผ่นเจลาติน)แช่น้ำให้นิ่ม


7-นมสด 1 dl. สำหรับมาต้มกับแผ่นเจลาติน


วิธีทำ


1-เอานม 2 dl. +น้ำมะนาวมาผสมกันให้เข้ากัน


2-เอามะม่วงมาปอกเปลือกแล้วเอาแต่เนื้อมะม่วงมาปั่นให้ละเอียด


3-เอานม ที่ผสมน้ำมะนาว มาผสมลงไป เติม น้ำตาล น้ำผึ้ง คนให้เข้ากัน หรือจะปั่นอีกรอบก็ได้


4-เอา นม1 dl. ใส่หม้อ ตั้งไฟปานกลาง พอเริ่มร้อน ก็เอาแผ่นเจลาตินที่แช่จนนิ่มแล้ว ใส่ลงไปในหม้อนม แล้วคนให้ เจลาตินละลายดีแล้วยกขึ้น พักให้เย็น แล้วเทลงไปในส่วนผสมที่3 (มะม่วงปั่น)คนให้เข้ากันดีแล้วเทใส่พิมพ์ แล้วแช่ตู้เย็น 1 คืน ก็เอามาทานได้


สูตรพุดดิ้งแบบไม่ต้องเอาเข้าตู้อบ สูตรที่2 สูตรช็อกโกแลตพุดดิ้ง
ส่วนประกอบ

• นมพร่องมันเนย 1 3/4 ถ้วย

• แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ

• ครีมข้น (Heavy Cream) 1/4 ถ้วย

• น้ำตาลทรายแดง 6 ช้อนโต๊ะ

• เกลือ 1/4 ช้อนชา

• กลิ่นวานิลลา 1 1/4 ช้อนชา

• ช็อคโกแล็ตชนิดไม่หวานขนาดสี่เหลี่ยมจตุรัส 3 ชิ้น (นำมาสับละเอียด หรือใช้ผงโกโก้ 4 ช้อนโต๊ะ)


วิธีทำ

• นำนมไปต้มในกระทะพอเดือด ผสมแป้งข้าวโพด เกลือน้ำตาล และครีมในชาม คนให้เข้ากัน

• นำส่วนผสมที่ได้ไปเทลงในนมที่ต้มอยู่ เปิดไฟอ่อน จนกระทั่งส่วนผสมเหนียวข้น คนต่อไปอีก 2-3 นาที

• เติมวานิลลาและช็อคโกแล็ต (หรือโกโก้) คนจนละลาย เทาใส่แก้วที่ใช้สำหรับเสิร์ฟ และนำไปแช่เย็น (ถ้าใช้ผงโกโก้ ควรนำไปละลายน้ำร้อน 2 ช้อนโต๊ะ ก่อนผสม)

หอยทอด[ THAI FRIED MUSSELS WITH EGG ]



* หอยแมลงภู่ 10 - 15 ตัว
* ไข่ไก่ 1 ฟอง
* แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
* แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ
* กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
* ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
* ถั่วงอก 1/2 ถ้วยตวง
* พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
* ต้นหอมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมันพืช
* ผักชี (สำหรับแต่งอาหาร)

เครื่องปรุงน้ำจิ้ม :
* ซ๊อสพริก 1/4 ถ้วยตวง, น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ,
เกลือ 1/4 ช้อนชา, น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ,
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ล้างหอยแมลงภู่ในน้ำสะอาด จากนั้นนำไปลวกในน้ำเดือดจนเกือบสุก จึงนำออกมาสะเด็ดน้ำ แกะเปลือกออกเตรียมไว้
2. ในชามขนาดกลาง, ผสมแป้งมัน, แป้งข้าวเจ้า, น้ำปูนใสและน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน คนจนส่วนผสมทั้งหมดละลายและเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
3. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง จากนั้นเทน้ำแป้งลงในกระทะและใส่หอยแมลงภู่ลงไป อย่าคนหรือพยายามกลับหน้าจนกว่าจะเกือบสุก
4. ใส่ไข่ไก่ลงไปบนแป้งในกระทะ ทอดจนเหลืองกรอบจึงกลับหน้าไปทอดอีกข้าง เมื่อสุกทั่วแล้วจึงปิดไฟ และตักใส่จานเสริฟ
5. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง ใส่กระเทียมและผัดจนหอม จากนั้นจึงใส่ถั่วงอก, ต้นหอม, ซิอิ๊วและน้ำตาลลงไป ผัดจนส่วนผสมเข้ากันและสุกทั่ว จึงตักใส่จานเสริฟ (ข้างหอยทอดที่จัดเตรียมไว้ก่อนแล้วในขั้นตอนที่ 4)
6. เหยาะพริกไทยลงไปนิดหน่อยและแต่งหน้าด้วยผักชี เสริฟทันทีขณะยังร้อนพร้อมน้ำจิ้มที่เตรียมไว้
วิธีการทำน้ำจิ้ม : ผสมเครื่องปรุงน้ำจิ้มในหม้อเล็กๆ และนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆจนเดือด จากนั้นจึงตักใส่ถ้วยน้ำจิ้มเตรียมไว
(สำหรับ 2 ท่าน)

ลาบหมู[ GROUND PORK SALAD ]


* หมูสับ 350 กรัม
* ใบสาระแหน่ 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
* ต้นหอมซอย 3 ช้อนโต๊ะ
* ผักชีหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
* พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาล 0.5 ช้อนชา
* หอมแดงหั่นหยาบ 0.5 ถ้วยตวง
* น้ำซุปไก่ 1 ถ้วยตวง (หรือน้ำเปล่า)
* กะหล่ำปลี 0.5 ลูก (หั่นเป็นเสี้ยว)

* ถั่วฝักยาว 5 ต้น (หั่นเฉียง)

วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ต้มน้ำในหม้อเล็ก ใส่หมูสับและต้มต่อไปอีก 2 นาที ระหว่างต้มใช้ทัพพีเขี่ยให้หมูแยกออกจากกัน เมื่อหมูสุกดีแล้วจึงปิดไฟ และเทน้ำออก
2. นำหมูที่สุกแล้วไปใส่ในชามขนาดกลาง เติมหอมแดง, ต้นหอม, ผักชี และใบสาระแหน่ (เหลือนิดหน่อยไว้แต่งหน้า) ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว, น้ำปลา, ข้าวคั่ว, พริกป่นและน้ำตาล คนจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน
3. ตักใส่จาน แต่งข้างจานด้วยผักสด (กะหล่ำปลี, ถั่วฝักยาว) โรยหน้าด้วยใบสาระแหน่ เสริฟพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ (หรือข้าวสวย)
(สำหรับ 2 ท่าน)

ส้มตำไทย THAI PAPAYA SALAD


* มะละกอดิบหั่นฝอย 2 ถ้วยตวง
* แครอทหั่นฝอย 1/2 ถ้วยตวง
* ถั่วฝักยาว 1/2 ถ้วยตวง (หั่นความยาวประมาณ 1" )
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาลปี๊บ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
(ถ้าไม่มีสามารถใช้น้ำตาลทรายแทนได้)
* น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
* มะเขือเทศ 1/2 ถ้วยตวง (หั่นครึ่ง)
* กุ้งแห้ง 1/3 ถ้วยตวง
* ถั่วลิสง 1/4 ถ้วยตวง
* พริกขี้หนู 10 เม็ด (ปรับเพิ่ม/ลด ตามความต้องการ)
* กระเทียมสด 5 กลีบ


วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ใส่กระเทียมและพริกลงในครก ใช้สากตำพอแหลก จึงใส่กุ้งแห้งและตำต่อไปอีกสักพัก
2. ใส่น้ำตาลปี๊บ ตำต่อจนน้ำตาลละลาย จึงใส่มะละกอฝอย, แครอทฝอย, ถั่วฝักยาว, มะเขือเทศ, ถั่วลิสง ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว จากนั้นจึงตำต่อจนส่วนผสมทั้งหมดเคล้ากันทั่ว
3. ปรุงรสให้ถูกปากด้วย น้ำตาล, น้ำปลา หรือน้ำมะนาวเพิ่ม รสดั้งเดิมจะมีรสหวาน, เผ็ด และเปรี้ยวพอๆกัน

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552

ต้มยำกุ้ง


เครื่องปรุง

กุ้ง 7-8 ตัว

เห็ด 350 กรัม

ตะไคร้ 1 ต้น

ใบมะกรูด 7-8 ใบ

ผักชี 2 ต้น

พริกสด 5 เม็ด

ซีอิ้วขาว (น้ำปลา) 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ

น้ำซุปไก่ 5 ถ้วย

วิธีทำ

1. นำกุ้งและเห็ดมาล้างให้สะอาด ปลอกเปลือกกุ้ง ผ่าหลังเอาเส้นดำออก ส่วนเห็ดนำมาผ่าเป็น 4 ส่วน
2. นำตะไคร้ ใบมะกรูด พริกสด และผักชีมาล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำแล้วหั่นตะไคร้เฉียงๆ ฉีกใบมะกรูดเอาเส้นกลางใบออก ทุบพริกแล้วหั่นเป็นท่อน ส่วนผักชีนำมาหั่นหยาบๆ
3. เปิดเตาที่ไฟแรงปานกลาง นำน้ำซุปใส่หม้อ รอจนเดือดจึงใส่ตะไคร้และใบมะกรูดลงไป เคี่ยวไปประมาณ 5 นาที
4. ใส่เห็ดและกุ้งลงไป รอจนเดือดประมาณ 2-3 นาทีจึงปิดเตา
5. ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่างๆ คือซีอิ้วขาว (น้ำปลา) น้ำมะนาว น้ำพริกเผา และพริกทุบ ชิมรสตามชอบ ใส่ผักชีโรยหน้า คนให้เข้ากัน
6. ตักต้มยำกุ้งใส่ถ้วย จากนั้นก็ยกเสริฟได้เลยค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

เมี่ยงคุณนาย


ส่วนประกอบ
เส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ (แบบยังไม่ตัด) 300 กรัม
เต้าหู้แข็งหั่นเส้น200 กรัม
เห็ดหูหนูดำหั่นเส้น50 กรัม
เห็ดหูหนูขาวแช่น้ำหั่น50 กรัม
เห็ดหอมแช่น้ำหั่น 30 กรัม
ซอสเห็ดหอม1 ช้อนชา
ผักสลัด30 กรัม
แครอท30 กรัม
มะเขือเทศ30 กรัม
ผักกาดหอม50 กรัม

ถัวลิสง50 กรัม


วิธีทำ

1. หั่นเต้าหู้เป็นเส้นตามความยาวของเต้าหู้ หนาประมาณ 1 ซ.ม. * 1 ซ.ม. แล้วนำไปทอดพอเหลืองพักไว้

2. ลวกเห็ดหูหนูดำและเห็ดหูหนูขาว พอสุกพักไว้

3. ผัดเห็ดหอมกับน้ำมัน พอหอมปรุงรสด้วยซอสเห็ดหอม พอเข้ากันพักไว้

4. แผ่เส้นก๋วยเตี๋ยวแล้วนำส่วนผสมที่เตรียมไว้มาเรียง บนเส้นก๋วยเตี๋ยว ตามด้วยผักสลัดที่เตรียมไว้ แล้วม้วนให้เป็นแท่ง เวลาม้วนต้องระวังอย่าให้เส้นก๋วยเตี๋ยวขาด และพยายามม้วนเส้นก๋วยเตี๋ยวให้แน่น

5. ตัดเป็นคำๆ จัดเสิร์ฟกับน้ำจิ้ม


ส่วนผสมน้ำจิ้ม

พริกขี้หนูน้ำมะนาวเกลือน้ำตาลทรายพริกชี้ฟ้าเขียวสับพริกชี้ฟ้าแดงสับ

วิธีทำน้ำจิ้ม

ตำน้ำพริกขี้หนูให้ละเอียด ผสมกับน้ำมะนาว เกลือ น้ำตาลทราย และน้ำ คนให้เข้ากัน ใส่พริกชี้ฟ้าสับ ตั้งไฟพอเดือด ทิ้งให้เย็น

ข้าวอบชีส


ส่วนผสม
ข้าวกล้องหุงสุก1 ถ้วย
ลูกเดือยต้มสุก2 ถ้วย
ผักขม100 กรัม
เนยสด3 ช้อนโต๊ะ
ชีส200 กรัม
นมสด1 ถ้วยตวง
เกลือป่น1/4 ช้อนชา
แป้งสาลี2 ช้อนชา


วิธีทำ

1. หั่นผักขมหยาบๆ ลวกผ่านน้ำเย็น บีบน้ำออกพักไว้

2. แบ่งชีสเป็น 2 ส่วน หั่นหยาบ

3. ตั้งกระทะไฟอ่อนในเนยสด พอเนยสดละลาย โรยแป้งสาลีให้ทั่วกระทะ ผัดแป้งให้เข้ากับเนย เติมนมสด เกลือป่น คนให้เข้ากัน จะได้ซอสขาวใส่ชีส 1 ส่วน คนให้เข้ากัน

4. ใส่ข้าวกล้อง ลูกเดือย ผักขม ผัดให้เข้ากัน ตักใส่ชามทนไฟ เกลี่ยให้เสมอ โรยหน้าด้วยชีสส่วนที่เหลือ

5. นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 10-15 นาที หรือจนชีสละลายเป็นสีเหลืองทอง นำออกเสิร์ฟทันที

Coconut สมูทตี้


สิ่งที่ต้องเตรียม

น้ำมะพร้าว 125 กรัม

น้ำเชื่อม 100 กรัม

วิปปิ้งครีม ตรา มารีน่า 100 กรัม

น้ำแข็งบดละเอียด 2 ถ้วยตวง

เหล้ามาลิบู 2 ออนซ์

เนื้อมะพร้าว 50 กรัม

ผลไม้รวมรองก้นแก้ว (ฟรุตคอกเทล)


วิธีทำ- นำส่วนผสมทั้งหมดลงในโถปั่น ปั่นจนละเอียดทั่วดี เทใส่แก้วที่รองด้วยผลไม้รวม พร้อมรับ

สลัดโยเกิร์ตผลไม้


ส่วนผสม

แอปเปิ้ล 2 ชิ้น

แก้วมังกร 2 ชิ้น

มะม่วงสุก ½ ลูก

ส้ม 3 กลีบ

มะละกอ 3 ชิ้น

โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ½ ถ้วย

ธัญญาหารรวม ตามชอบ


เมื่อได้ส่วนผสมครบแล้วก็มาถึงวิธีทำคือ


ขั้นแรกนำผลไม้ทุกชนิดมาหั่นให้ได้ขนาดพอดีคำ เสร็จแล้วใส่ถ้วยหรือจานก็ได้ แล้วนำโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่แช่เย็นไว้มาราดลงบนผลไม้ แล้วโรยหน้าด้วยธัญญาหารรวม(Mix Cereal) หรือจะเป็นลูกเกด เม็ดมะม่วงหิมมพานต์ก็เข้าท่า เพียงเท่านี้ก็จะได้ “สลัดโยเกิร์ตผลไม้” ไว้กินเล่นดับร้อน แต่ทั้งนี้ผลไม้ที่ใช้อาจเปลี่ยนได้ตามความชอบ

บลูเบอรี่ชีสพาย


ส่วนผสมของ “บลูเบอรี่ชีสพาย” ประกอบไปด้วย

ขนมปังกรอบ ABC 250 กรัม

เนยสดละลาย 1 ก้อน

น้ำตาลไอซิ่งร่อน 1/2 ถ้วย

ครีมชีส 450 กรัม

ครีมข้น 1 กระป๋อง

นมข้นหวาน 3/4 ถ้วย

น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

บลูเบอรี่ 1 กระป๋อง


ส่วนวิธีทำก็อย่างที่บอกว่าไม่ยาก


เริ่มจากป่นขนมปังกรอบหยาบๆ ใส่น้ำตาลไอซิ่ง เคล้าให้เข้ากัน จากนั้นก็หันไปหั่นเนยเป็นชิ้นเล็ก นำไปตั้งไฟให้เนยละลาย พอได้ที่ก็จัดแจงนำขนมปังกับน้ำตาลไอซิ่งมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน แบ่งที่ผสมไว้ออกเป็น 3 ส่วนเพื่อทำเป็นถาดแป้ง กรุใส่พิมพ์ฟอยล์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 9 นิ้ว นำเข้าตู้เย็นประมาณ 1/2 - 1 ชั่วโมง ระหว่างที่รอก็ตีครีมชีสให้กระจาย ใส่น้ำมะนาว ตีจนเนียน ใส่นมข้น ครีมข้น แล้วตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน

ขั้นตอนสุดท้ายก็นำส่วนผสมที่ได้ใส่ในถาดแป้งทั้ง 3 ถาด นำไปเข้าตู้เย็นช่องแข็งไว้ รอเวลาว่าจะทานเมื่อไร เมื่อจะเสิร์ฟก็ราดบลูเบอรี่สีม่วงสด เท่านี้ก็เรียบร้อย

โยเกิร์ต..เชค


สำหรับส่วนผสมก็มี

โยเกิร์ต(รสผลไม้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน) 1 ถ้วย

กล้วยหอม 1 ลูก

แคนตาลูป 1 เสี้ยว

น้ำแข็งเกล็ด 1-2 แก้ว

วิปปิ้งครีมสำหรับตกแต่งแบบสเปรย์ (ถ้ามี)


เมื่อได้ส่วนผสมเรียบร้อยแล้ว


***ก็เริ่มด้วยการ นำกล้วยหอมและแคนตาลูปมาปอกเปลือก ผ่าครึ่ง แล้วใส่ลงไปในเครื่องปั่นผลไม้ เทโยเกิร์ต และ น้ำแข็งเกล็ดตามลงไป


***จากนั้นปั่นทุกอย่างให้เข้ากัน ใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที จนน้ำแข็งละเอียดเป็นมูทเหมือนสเลอปี้ถ้าชอบให้มีสีสันอาจจะใส่น้ำเฮลล์บลูบอยสีแดงหรือสีเขียวลงไป ประมาณ 1 ช้อนชา แต่อย่ามากเกินไปเพราะจะกลายเป็นกลิ่นน้ำหวาน จะไม่ใช่กลิ่นกล้วยหอม ส่วนใครถ้าอยากจะให้เข้มข้นก็อาจจะใส่นมสดเพิ่มความหวานมันลงไปตามใจชอบซึ่งเมื่อออกมารสชาติก็ชวนกินไม่แพ้ อ้อ...อีกนิด ถ้าหากมีวิปปิ้งครีมก็ลองบีบตกแต่งเพื่อให้หน้าตาเครื่องดื่มดูสวยงามขึ้น ร้อนนี้ ได้เครื่องดื่มอะไรๆคลายร้อน มันก็ช่วยให้ใจเย็นขึ้นเยอะ

ค็อกเทล


ส่วนผสม ที่ต้องเตรียม

ไลท์ รัม 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมะม่วง 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำส้ม 2 ช้อนโต๊ะ

ส้มคูราเซา 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำเชื่อมผสมมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ


สำหรับวิธีการทำนั้นแสนจะง่ายดาย


ทำเสร็จง่ายๆ เพียงแค่ไม่กี่วินาที เพียงแค่นำส่วนผสมทั้งหมดเทใส่ในเช็คเกอร์ พร้อมกับใส่น้ำแข็งเกล็ดลงไป แล้วก็ออกแรงนิดหน่อย เขย่าให้ส่วนผสมทั้งหมดนั้นเข้ากันเป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อยเทใส่แก้ว พร้อมดื่มได้ทันที เอาไว้ดื่มพร้อมไปกับการเชียร์บอลทีมโปรด

ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่


เครื่องปรุง

ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 1 ถ้วย

เนื้อไก่ (เลือกใช้ส่วนสะโพกติดมันนิดๆ) 100 กรัม ไ

ข่ไก่ 2 ฟอง

พริกไทยป่น 1 ช้อนชา

น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำมัน 5-6 ช้อนโต๊ะ

ต้นหอม ผักชี 2 ต้น

ผักกาดหอมเด็ดเป็นใบ 1 ต้น


เตรียมเครื่องปรุงส่วนผสมเสร็จสรรพ


ก็จับไก่มาหั่นเป็นชิ้นพอคำ ซึ่งถ้าใครขยันหน่อยก็อาจจะหมักไก่ โดยใส่ซอสปรุงรส น้ำมันหอย พริกไทย น้ำตาล อย่างละพอประมาณ หมักทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง (“กุ๊กเล็ก”เคยได้ยินว่าถ้าใส่นมสดกับน้ำมันพืชผสมเข้าไปด้วย ก็จะช่วยให้เนื้อไก่นุ่มเด้งเช้งกะเด๊ะขึ้น สงสัยวันหลังต้องลองทำดูบ้างแล้ว)


เอาเป็นว่าหลังจากจัดการกับไก่แล้ว ก็หันมาจับตะหลิวตั้งกระทะใส่น้ำมัน อ้อ !! ขอคั่นรายการนิดนึง ถ้าหากว่าใครใช้กระทะเทปลอนก็คงไม่มีปัญหาเรื่องเส้นติดกระทะ แต่ถ้าใครใช้กระทะธรรมดาแนะนำว่าให้เผากระทะก่อน ด้วยการเปิดไฟแรงจนน้ำมันร้อนเป็นควัน เทน้ำมันทิ้ง แล้วเอาน้ำมาราดกระทะเร็วๆเพื่อล้างน้ำมันที่ไหม้ออกไป จะช่วยให้เส้นไม่ติดกระทะได้ดีเชียวล่ะ พักคั่นด้วยกลเม็ดเคล็ดลับแล้วก็มาทำก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่กันต่อ เริ่มด้วยใส่น้ำมันเล็กน้อยในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน เอาไก่ลงไปผัดให้สุก ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยว ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่เหลือผัดให้เข้ากัน ผัดให้เส้นร่วนไม่ติดกันก่อนจะตอกไข่ ใส่ต้นหอม ลงไปผัดอีกนิดหน่อย เสร็จแล้วก็ตักใส่จานที่รองด้วยผักกาดหอม โรยต้นหอมผักชีซอย ใส่พริกไทย น้ำส้ม พริกป่น ตามรสนิยมลิ้น

ครีมโซดา


***ส่วนผสม***

น้ำนมถั่วเหลือง 4 ช้อนโต๊ะ

น้ำเชื่อม 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำแข็ง 1/2 ถ้วย

น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำเขียว 2 ช้อนโต๊ะ

โซดา 1/4 ถ้วย


วิธีการทำ


**///ก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่น้ำส่วนผสมทุกอย่างยกเว้นโซดา ใส่ลงในกระบอก แล้วเชคๆ เขย่าให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน เท่านี้ก็เป็นอันว่าเสร็จสิ้นวิธีการทำ จากนั้นก็เทใส่แก้วเสิร์ฟพร้อมกับเติมโซดาลงไปก็เป็นอันเสร็จพิธี

เปาะเปียะทอด


ส่วนผสมไส้เปาะเปี๊ยะมีดังนี้

แผ่นเปาะเปี๊ยะ 10 -15 แผ่น

เห็ดหอม (หรือจะใช้เป็นเห็ดหูหนูก็ได้) 3 ดอก

วุ้นเส้นแช่น้ำให้นุ่มตัดเป็นท่อนสั้นๆ 1/2 ถ้วย

หมูสับ 2 ขีด

ไข่ไก่ 1 ฟอง

แครอทหั่นฝอย 2 ขีด

ถั่วงอกเด็ดหาง 1/4 ถ้วย

น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว รากผักชี กระเทียม พริกไทย พอประมาณ

น้ำมันพืชสำหรับทอด

น้ำเปล่าสำหรับทาแผ่นเปาะเปี๊ยะ

@@@

---เมื่อเตรียมส่วนผสมได้แล้วก็ลงมือได้เลย โดยเริ่มจากผสมเนื้อหมู ไข่ไก่ แครอท เห็ดหอม ถั่วงอก พริกไทย น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว และวุ้นเส้นคลุกเคล้าเข้ากัน จากนั้นก็โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย ทั้งหมดให้ละเอียด ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เอาที่โขลกลงผัดให้หอม ตามด้วยส่วนผสมไส้เปาะเปี๊ยะที่คลุกไว้ ผัดพอสุกแล้วตักขึ้นมาพักไว้

---แล้วก็ถึงขั้นตอนการห่อเปาะเปี๊ยะ โดยถ้าแผ่นเปาะเปี๊ยะบางไป ก็ให้วางซ้อนกันสองแผ่น ตักไส้ใส่ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วม้วนแผ่นเปาะเปี๊ยะให้แน่นเป็นแท่งกลม ๆ พับหัวท้าย ทาขอบแผ่นเปาะเปี๊ยะด้วยน้ำเปล่า จากนั้นก็ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่เปาะเปี๊ยะลงไปทอดให้สุกเหลืองแล้วตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
สำหรับส่วนผสมของน้ำจิ้มประกอบด้วย

พริกชี้ฟ้าแดงโขลก 5 เม็ด

น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ


ซึ่งพอส่วนผสมครบก็แค่ผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน แล้วตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวจนน้ำตาลละลายและเหนียวก็ยกลง หั่นเปาะเปี๊ยะเป็นชิ้นพอคำ จัดใส่จาน เสิร์ฟพร้อมกับผักและน้ำจิ้ม

กุ้งอบวุ้นเส้น


ส่วนผสม

กุ้งตัวใหญ่ 5 ขีด

วุ้นเส้นแช่น้ำจนนุ่มตัดเป็นท่อนสั้นๆ 1 ถ้วย

กระเทียม 1 หัว

พริกไทย 10 เม็ด

รากผักชี 5 ราก

น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำซุป 1/2 ถ้วย

ต้นหอม ผักชี 1-2 ต้น

///แล้วก็มาถึงวิธีการทำ///

_ให้เริ่มด้วยล้างกุ้งทั้งเปลือกให้สะอาด ตัดหนวดและผ่ากลางตัว เอาเส้นขี้กุ้งที่เป็นไส้ดำๆ ออก จากนั้นก็โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย แล้วนำไปคลุกเคล้ากับวุ้นเส้นและเครื่องปรุงที่เหลือให้เข้ากัน ขั้นต่อมาเอากุ้งวางเรียงก้นหม้อ ใส่วุ้นเส้นที่คลุกแล้วและเติมน้ำซุปให้ท่วมวุ้นเส้น แล้วปิดฝาหม้อ นำไปตั้งไฟอ่อน ๆ นานประมาณ 20 นาทีหรือจนสุก ซึ่งในช่วงที่กุ้งยังไม่สุกถ้าน้ำเริ่มงวดให้เติมน้ำซุปลงไปอีกครั้ง ชิมรสที่ตัววุ้นเส้น ถ้ายังไม่อร่อยก็เติมเครื่องปรุงจนถูกใจ เมื่อเสร็จแล้วก็ใส่ผักชีโรยหน้าสักนิด ยกไปเสิร์ฟกินร้อน ๆ แสนจะอร่อย

_บอกอีกนิด ถ้าจะให้ดีงานนี้ต้องอบใส่หม้อดิน เพราะจะรู้สึกถึงรสชาติความเป็นกุ้งอบวุ้นเส้น แต่ถ้าไม่มีจะใช้หม้อสแตนเลสทำก็ได้ หรือถ้าให้ง่ายเข้าไปอีกใครจะอบด้วยเตาไมโครเวฟก็ได้ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด

เนื้อสะดุ้ง


สำหรับส่วนผสม (สำหรับรับประทานในครอบครัว 4 คน)

เนื้อสันใน 2 ขีด

น้ำมะนาว 1 ½ ช้อนโต๊ะ

น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ

ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ


ส่วนวิธีทำนั้นก็ง่ายแสนง่าย

**เริ่มจากหั่นเนื้อตามขวางเป็นชิ้นเล็กๆขนาดพอดีคำ ผสมซอสมะเขือเทศ ซอสปรุงรสน้ำมันหอย และน้ำมะนาวให้เข้ากัน จากนั้นตั้งน้ำให้เดือดพล่านจุ่มเนื้อให้พอสะดุ้ง นำน้ำปรุงรสราดลงบนเนื้อและเคล้าให้เข้ากันดี

**ตกแต่งจานเพื่อเพิ่มสีสันให้ดูน่ากินยิ่งขึ้นด้วย มะนาว กะหล่ำปลี วางประดับพอสวยงาม กินเป็นกับข้าวหรือกินเป็นกับแกล้ม

มะม่วงเนื้อวัวผัดซอสเหล้าแดง


***สำหรับส่วนผสมของเมนูนี้ก็มี***

เนื้อวัว 1 ขีด

แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ

มะม่วงสุก 1 ลูก

พริกหวานเขียว 1 ลูก

พริกหวานแดง 1 ลูก

กระเทียม 2-3 กลีบ

ซอสเหล้าแดง 2 ช้อนโต๊ะ

เกลือ น้ำตาล น้ำมันพืช (ปริมาณตามต้องการ)

วิธีทำขั้นแรก


**** เริ่มที่เนื้อวัวโดยแล่เป็นชิ้นบางๆ ขนาดพอดีคำ จากนั้นนำไปทอดให้สุก เสร็จแล้วก็ตักเนื้อขึ้นมาพักไว้ ระหว่างนั้นก็ปอกเปลือกมะม่วงหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ซึ่งจะเป็นพันธุ์ไหนก็ได้ตามชอบ แต่ขอให้เป็นมะม่วงที่เพิ่งเริ่มสุกและมีเนื้อแน่นไม่เละจนเกินไป ส่วนพริกหวานเขียวและพริกหวานแดงก็หั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปลวกสักพัก ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ

****จากนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมันจนร้อนเพื่อเจียวกระเทียม แล้วใส่เนื้อวัว พริกหวานเขียวและแดงที่ลวกแล้วลงไปผัด ใส่ เกลือ น้ำตาล และแป้งมันที่ละลายน้ำลงไป จากนั้นใส่มะม่วง และซอสเหล้าแดง ผัดอีกครั้งจนสุก เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ซี่โครงหมูอบซอส


สิ่งที่ต้องเตรียม
ซี่โครงหมู 1000 กรัม

หอมใหญ่สับละเอียด 1/2 หัว

กระเทียม สับ 5 กลีบ

ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ

ซอสเปรี้ยว 1/2 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำส้มคั้น1/2 ถ้วย

ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ

ซอสพริก 2 ช้อนโต๊ะ

ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ

เหล้าจีน 1/2 ฝา


วิธีทำ
- นำซี่โครงหมูมาล้างทำความสะอาดแล้วสับเป็นท่อนตามต้องการ ใช้ส้อมจิ้มรอบๆ เนื้อหมูเพื่อที่เวลาอบน้ำซอสจะได้ซึมเข้าเนื้อ แล้วผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ

- ใส่ส่วนผสม ซอสมะเขือเทศ ซอสเปรี้ยว น้ำตาลทรายแดง น้ำส้มคั้น ซีอิ้วขาว ซอสหอยนางรมและซอสพริกลงในถ้วยใบใหญ่คนส่วนผสมให้เข้ากันเตรียมไว้

- ใส่เนยลงไปประมาณ 1 ช้อน เอากระเทียมสับลงผัดในกระทะให้หอม แล้วตามด้วยหอมใหญ่สับลงผัดในกระทะให้สุก

- นำซี่โครงหมูลงไปผัดแค่พอให้หมูหดแล้วราดด้วยเหล้าจีน จากนั้นเทส่วนผสมที่เตรียมไว้ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน

- เททั้งหมดลงในถาดแล้วเอาฟอล์ยปิด นำเข้าเตาอบ 170 องศาเซลเซียส ประมาณ 3 ชั่วโมง และทุกๆ 1 ชั่วโมงให้นำออกมาคนทีนึง หรือถ้าขี้เกียจก็คนแค่ครั้งเดียวก็คงพอค่ะ

- เมื่อหมูอบสุกแล้วตักใส่จานแล้วอย่าลืมตักน้ำซอสในถาดราดลงบนหมูเพิ่มอีกนะคะ อร่อยมากๆ

(ถ้าใครอยากเปลี่ยนจากน้ำส้มคั้นเป็นน้ำผลไม้ชนิดอื่นๆ ก็ได้เหมือนกัน ก็อร่อยไปอีกแบบ)

พะแนงกุ้งชาววัง



เครื่องปรุง

กุ้งแชบ๊วย 20 ตัว

ไข่ไก่ 2 ฟอง

นมสด 1/3 ถ้วยตวง

น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำพริกแกงพะแนง 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ

ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ

ใบมะกรูดหั่นฦอย 10 ใบ

ใบโหระพา 1/4 ถ้วยตวง

พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ 1 เม็ด


วิธีทำ

1. ใส่นำ้มันพืชลงในกระทะผัดกับน้ำพริกพะแนงจนหอม ใส่กุ้งแชบ๊วย ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ซอสหอยนางรมและนมสดผัดให้เข้ากันชิมรสตามชอบ

2. ตอกไข่ไก่ลงไปคนให้เข้ากัน ใส่ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้าและใบโหระพาลงผัดจนเข้ากันตักใส่จานเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ