วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Blog ไว้ดูสูตรอาหารจ๊ะ...

http://www.ucancookthai.com/language-thai/th-recipes/th-noodle/content-th-namya.htm
http://www.thaifooddb.com/index.php

www.kruaklaibaan.com
www.horapa.com

ขออนุญาตเจ้าของ Web and Blog เผื่อไว้เผื่อคอมพิวเตอร์ไม่มีภาษาไทยให้เสริ์ช หาใน google..


ขอบคุณคะ

แซนวิชทอด



ส่วนผสม
ปลาทูน่าในน้ำเกลือ 1 ถ้วยตวง
หอมใหญ่สับ 1/4 ถ้วยตวง
แครอทหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 1/4 ถ้วยตวง
มายองเนส 1/2 ถ้วยตวง
ขนมปังแซนด์วิช 10 แผ่น
ไข่ 2 ฟอง
เกล็กขนมปังป่น 2 ถ้วยตวง
พริกหวานสีเขียว 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. ผสมปลาทูน่าหอมใหญ่ แครอท มายองเนส คนให้เข้ากัน 2. ตักส่วนผสมข้อ 1 ใส่ตรงกลางขนมปังแซนด์วิช นำอีกแผ่นประกบ ใช้ไม้จิ้มฟันกลัดให้ติดกัน 3. ตีไข่พอแตกชุบขนมปังที่บรรจุไส้ไว้ แล้วคลุกเกล็ดขนมปังอีกครั้ง
4. นำไปทอดให้เหลืองทั้ง 2 ข้าง พักให้สะเด็ดน้ำมัน ดึงไม้จิ้มฟันออก
5. หั่นเป็นชิ้นบรรจุในถุงหรือห่อด้วยกระดาษไขพร้อมจำหน่าย

ขนมปังหน้าหมู (แบบไม่ต้องทอด)


เครื่องปรุง

◊ ขนมปังเป็นแผ่น ๖ แผ่น

◊ หมูบด ๒๐๐ กรัม (เปลี่ยนจากหมูเป็นกุ้ง ก็จะได้ขนมปังหน้ากุ้งค่ะ)

◊ กระเทียม พริกไทย ราก(ก้าน)ผักชี โขลกละเอียด ๒ ช้อนชา

◊ แป้งมัน ๑ ช้อนชา

◊ เกลือป่น ๑/๒ ช้อนชา (หรือซีอิ๊วขาว ๑ ช้อนโต๊ะ)

◊ ไข่ไก่ฟองเล็ก ๑ ฟอง

◊ ไข่ไก่อีก ๑ ฟองสำหรับชุบหน้าขนมปัง

◊ งาขาวหรืองาดำ ๑ ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ผสมหมูบดกับไข่ไก่ ๑ ฟอง กับกระเทียม พริกไทย รากผักชีที่โขลกแล้ว แป้งมัน เกลือ ให้เข้ากัน แล้วหมักไว้ในตู้เย็น อาจใส่ผักชีหั่นในหมูหมักก็ได้ค่ะ เพิ่มสีสัน

2. ต่อยไข่ใส่จาน ตีไข่พอเข้ากัน ไว้ชุบหน้าขนมปัง

3. ตัดขนมปังออกเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมได้ เป็น ๖แผ่นเล็กต่อ ๑ แผ่นค่ะ

4. เปิดเตาอบ ตั้งความร้อนที่ ๓๕๐ องศาฟาเรนไฮต์ค่ะ และมาทาหน้าขนมกัน เอาหมูที่ผสมทิ้งไว้แล้วมาทาหน้าขนมปัง

5. แล้วเกลี่ยให้ทั่วแผ่น ด้านเดียวค่ะ

6. แล้วเอาหน้าชุบลง ด้านมีเนื้อค่ะ

6. ชุบไข่จนเสร็จ และเรียงบนตะแกรง

6. โรยหน้าด้วยงาขาวหรืองาดำค่ะ ไม่มีหรือไม่ชอบไม่ต้องโรยก็ได้ค่ะ

7. อบนาน ๑๕ นาทีออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ กรอบเหมือนทอด แต่ไม่มีน้ำมัน ไม่อมน้ำมันค่ะ หรือถ้าจะทอดในน้ำมัน ต้องวางขนมปังทิ้งไว้ให้แห้งก่อนนำมาทาหน้า ๑ ชั่วโมง เวลาทอดจะได้ไม่อมน้ำมันค่ะ

8. เรียงใส่จานเสริฟ พร้อมน้ำอาจาด


การทำน้ำอาจาด

◊ เกลือ ๑ ช้อนชา

◊ น้ำตาลทราย ๑/๒ ถ้วยตวง

วิธีทำ

◊ เอาทุกอย่างมาผสมกัน ตั้งไฟเคี่ยวสักครู่ให้ละลาย ออกรสหวาน เค็ม และเปรี้ยว◊ หั่นแตงกวา หอมแดง พริกชี้ฟ้า (หรือพริกที่มีอยู่) ใส่ลงไป

◊ น้ำส้มสายชู ๑/๒ ถ้วยตวง

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สปาเกตตี้ไก่



ส่วนประกอบ

- เส้นสปาเก็ตตี้ 200 กรัม

- เนื้ออกไก่ 200 กรัม - เกลือป่น 1 ช้อนชา - มะเขือเทศ 4 ผล - พริกหวาน 1 ลูก

- เนยสด 4 ช้อนโต๊ะ

- หอมหัวใหญ่สับหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ

- ซอสมะเขือเทศ 4 ช้อนโต๊ะ

- ซอสปรุงรส 1ช้อนโต๊ะ

- ไวน์แดง 2 ช้อนโต๊ะ

- พริกไทย 1 ช้อนชา

- ออริกาโน 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

- นำเนื้อไก่มาบดหยาบ ใส่ซอสปรุงรส และพริกไทยเล็กน้อย หมักพักไว้

- ต้มเส้นสปาเก็ตตี้จนนุ่ม คลุกน้ำมันพืชเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ติดกัน

- หั่นมะเขือเทศ พริกหวาน และหอมหัวใหญ่เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ

- ตั้งกะทะไฟกลางใส่เนย พอเนยละลาย นำหอมหัวใหญ่ลงผัดให้หอม ใส่เนื้อไก่ ซอสปรุงรส ไวน์แดง ซอสมะเขือเทศ พริกไทย เกลือป่น ออริกาโน คลุกเคล้าให้เข้ากัน พอเดือดใส่ มะเขือเทศ พริกหวานลงไป ตักขึ้น ราดบนเส้นสปาเก็ตตี้ที่เตรียมไว้

- จัดเสิร์ฟ


Coleslaw



กะหล่ำปลี (ซอยเล็ก) 8 ถ้วย
แครอท (หั่นเล็กๆ) 1/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
เกลือ 1/2 ช้อนชา
พริกไทย 1/8 ช้อนชา
นมสด 1/4 ถ้วย
มายองเนส 1/2 ถ้วย
น้ำส้มสายชู 1 1/2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 2 1/2 ช้อนชา
เนยจืด 1/4 ถ้วย
วิธีทำ

1. ซอยกะหล่ำปลีและแครอทให้เป็นชิ้นเล้กๆ

2. ผสมน้ำตาล เกลือ พริกไทย นม มายองเนส เนยจืด น้ำส้มสายชูและน้ำมะนาวให้เข้ากัน

3. นำกะหล่ำปลีและแครอทที่ซอยแล้วมาคลุกเคล้าจนเข้ากันดี4. นำส่วนผสมที่เข้ากันดีแล้วใส่ตู้เย็นไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนเสิร์ฟ

มันบดราดซอสขาวชีสอบ



เครื่องปรุง :-
- มันฝรั่งปอกเปลือกแล้วผ่า 4 -6 หัว
- น้ำต้มมัน พอประมาณ
- นมจืดหรือครีม
1ถ้วยตวง
- เนย 6ช้อนโต๊ะ
- ลูกจันทน์บด 1/4ช้อนชา
- พริกไทยป่น พอประมาณ
- เกลือ พอประมาณ
- บร็อคโคลี่ลวก พอประมาณ
- มอซซาเรลลาชีสชนิดแผ่น 2แผ่น
- ซอสขาว พอประมาณ

วิธีทำ :-

1. ต้มมันในน้ำผสมเกลือให้สุก แต่ยังไม่เละ

2. เทน้ำร้อนออกจากหม้อให้หมด แล้วนำมันที่อยู่ในหม้อตั้งไฟต่อ เพื่อทำให้มันแห้งสนิท

3. เมื่อมันไม่มีความชื้นแล้ว ยกออกจากเตา แล้วเอาที่บด บดให้ละเอียด ลักษณะของมัน ควรจะแห้งคล้าย ๆ แป้ง

4. เมื่อมันละเอียดแล้ว อุ่นนมและเนยในอีกภาชนะหนึ่ง เมื่อเดือดค่อย ๆ เทส่วนผสมของนม และเนยลงไปในมันบด คนให้เข้ากัน หรือตีให้เข้ากัน

5. จะใส่เนยและนมน้อยหรือมาก แล้วแต่ความต้องการของผู้รับประทาน และความต้องการของลักษณะของมันบด คือว่าถ้าใส่นมน้อยก็จะอยู่ในลักษณะที่แข็ง ถ้าใส่มากก็จะเหลว

6. ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และลูกจันทน์บด รสชาติของมันบดควรจะมันเหมือนเนยกับนม และครีมที่มีรสเค็ม ๆ มัน ๆ

7. นำมันบดที่ได้มาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วใส่ลงในภาชนะสำหรับอบ เรียงบร็อคโคลี่ลงไปข้าง ๆ มันบด วางชีสแผ่นทับลงไป ราดด้วยซอสขาว นำเข้าเตาอบ ๆ จนหน้าซอสขาวเหลือง

8. ยกออกจากเตาอบ ตักใส่จานเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยเบคอนทอดกรอบ ยกเสิร์ฟร้อน ๆ

มันฝรั่งอบชีส



ส่วนผสม
เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่ 1/4 ถ้วยตวง
แป้งสาลี 2 ช้อนชา
นมข้นจืด
1/2 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
มันฝรั่งทั้งหัว 4 หัว
แฮมหั่นเส้น 1/2 ถ้วยตวง
ชีสขูดฝอย 1/3 ถ้วยตวง
ผักสลัด


วิธีทำ

1. ล้างมันฝรั่งให้สะอาดทั้งเปลือก ห่อด้วยกระดาษฟอยล์ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 350 F ประมาณ 20 นาที จนมันฝรั่งสุก

2. บีบมันฝรั่งให้แตกออกขณะที่มันฝรั่งอุ่นๆ

3. ใส่เนยสดลงในกระทะพอละลาย ใส่หอมใหญ่ลงผัดให้มีสีเหลืองและมีกลิ่นหอม

4. ใส่แป้งสาลีคนให้เข้ากัน ใส่นมข้นจืด น้ำเปล่า คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือป่น พริกไทยป่น ผัดให้เป็นครีมข้น ยกลง

5. ใส่เนยสดเล็กน้อยลงในกระทะ ใส่แฮมลงผัดพอร้อนหรือจะใช้วิธีลวกก็ได้

6. จัดผักสลัดใส่จานให้สวยงาม จัดมันฝรั่งที่อบร้อนลงในจาน ราดหน้าด้วยส่วนผสมซอสขาว (ข้อที่ 4) บนมันฝรั่ง แต่งหน้าด้วยแฮมและชีสขูด จัดเสิร์ฟร้อนๆ


หมายเหตุ

ผักสลัดที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วจัดใส่กล่องนำเข้าตู้เย็นแช่ให้ผักเย็น เมื่อนำออกมารับประทานจะได้ผักที่กรอบอร่อย

มะกะโรนีอบซอสเนื้อสับ

มะกะโรนีอบซอสเนื้อสับ
เครื่องปรุง
- มะกะโรนีรูปข้องอ 225 กรัม
- เนยสดเค็ม 4 ช้อนโต๊ะ
- พาร์มีซานชีสขูด 60 กรัม
- ลูกจันทน์คั่วป่น 1/3 ช้อนชา
- ไข่ไก่ตีให้เข้ากัน 2 ฟอง
- หอมใหญ่สับละเอียด 1 หัว
- กระเทียมบุบพอแตก 3 กลีบ
- เนื้อวัวสับ 460 กรัม
- ซอสมะเขือเทศเข้มข้น 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำสต็อกเนื้อ 6 ช้นโต๊ะ
- ไวน์แดง 2 ช้อนโต๊ะ
- พาร์เลย์สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ
- นมสดจืด 1/2 ถ้วย
- เกลือและพริกไทยปรุงรสตามชอบ
- ยอดโหระพาสำหรับตกแต่ง
- ชามอบ
วิธีทำ
1. ต้มมะกะโรนีให้สุกพอดี
2. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส 5-10 นาที
3. ตั้งกระทะด้วยไฟอ่อน จากนั้นใส่เนย 1 ช้อนโต๊ะลงไป พอเนยละลายจึงใสมะกะโรนี ตามด้วยพาร์มีซานชีสครึ่งหนึ่ง ลูกจันทน์ ปรุงรสดวยเกลือ พริกไทย ผัดจนทั่ว ผิดไฟ ตักใส่อ่างผสม จากนั้นใส่ไข่ที่ตีครึ่งหนึ่ง คนให้เข้ากัน พักไว้
4. ทำซอสเนื้อโดยตั้งกระทะด้วยไฟอ่อน ใสเนย 1 ช้อนโต๊ะ พอเนยละลาย ใส่หอมใหญ่และกระเทียมลงผัดจนหอม เร่งไฟเป็นไฟกลาง ใส่เนื้อวัวสับลงไปผัดจนสุก ตามด้วยซอสมะเขือเทศเข้มข้น น้ำสต็อกเนื้อ ไวน์แดง และพาร์สเลย์ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ลดไฟเป้นไฟอ่อน เคี่ยวต่อ 15-20 นาที
5. ทำซอสขาวดดยตั้งกระทะด้วยไฟอ่อน ใส่เนยที่เลหือลงไป พอเนยละลายจึงใส่แป้งสาลีผัดด้วยตะกร้อให้เข้ากันและข้น จึงใส่ไข่ที่เหลือ คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย
6. ตักมะกะโรนีที่ผสมไข่ครึ่งหนึ่งลงในชามอบ ราดด้วยซอสเนื้อแล้วตักมะกะโรนีที่ผสมไข่ลงอีกชั้น ราดด้วยซอสขาว โรยพาร์มีซายชีสที่เหลือ นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบ 30 นาที หรือจนหน้าเหลือง ยกอกจากเตา ตกแต่งด้วยยอด

แซนด์วิชแฮมกับไส้กรอก



เครื่องปรุง
ขนมปัง 6 แผ่น

เนยสำหรับทาขนมปัง 1 ช้อนโต๊ะ

ไส้กรอกหมู 3 แผ่น

แฮมหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก 2 แผ่น

น้ำสลัดน้ำข้น 1/3 ถ้วย

ผักกาดหอม 2 ใบ

หอมใหญ่สับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

ถั่วแขกลวกสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

แครอทลวกสับละเอียดสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ
1. ตัดขอบขนมปังออกทุกด้าน ทาเนยด้านใดด้านหนึ่งของแต่ละแผ่น

2. ผสมเครื่องปรุงทั้งหมดให้เข้ากันดี ทาลงบนขนมปังข้างที่ทาเนยไว้

3. ใส่ผักกาดหอม นำขนมปังอีก 1 แผ่นมาประกบ

4. ตัดแบ่งครึ่งตามด้านทแยง (หรือหั่นเป็นชิ้นพอดีคำสำหรับเสริฟในงานปาร์ตี้)

5. ห่อด้วยแผ่นฟิล์มใสหรือใส่ถุงพลาสติค เพื่อป้องกันขนม

มันฝรั่งสอดไส้



ส่วนผสม
มันฝรั่ง 2 -3 หัว
เนื้อหมูบด 1/2 ถ้วย
แฮมสับ 1 - 2 แผ่น
เบคอนสับ 1 ช้อนโต๊ะ
หอมหัวใหญ่สับ 1/2 หัว
กระเทียมสับ 3 กลีบ
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
เนย 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทย
ผักชีหั่นฝอย
วิธีทำ

1. นำมันฝรั่งที่ล้างทำความสะอาดเปลือกแล้ว มาปาดด้านบน คว้านเอาเนื้อตรงกลางออก ให้เหลือความหนารอบๆ สัก 1 นิ้ว ส่วนเนื้อที่คว้านออกนั้น อย่าทิ้ง ให้นำไปหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ แล้วพักไว้

2. ตั้งกระทะใส่เนย เติมหอมหัวใหญ่ลงผัดในกระทะ จนมีกลิ่นหอม แล้วจึงใส่เบคอนสับลงไปผัดด้วยกัน จะช่วยเพิ่มความหอมให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น จากนั้น นำเนื้อหมูบด แฮมสับ และมันฝรั่งที่หั่นเป็นชิ้นไว้ ลงผัดรวมกันในกระทะ

3. ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย พริกไทย ผัดจนเครื่องปรุงสุกได้ที่ แล้วยกขึ้นใส่ชามพักไว้ จากนั้นให้นำไปใส่ในมันฝรั่งที่เตรียมไว้ให้เต็ม และนำเนยมาทาบนผิวมันฝรั่งจนทั่ว จัดวางในภาชนะสำหรับเข้าเตาอบ ใช้ไฟกลาง เมื่อครบ 10 - 15 นาที ก็ยกออกจากเตา ยกเสิร์ฟร้อนๆ รับประทานได้ทันทีค่ะ

สเต็กหมูบราวน์ซอส


ส่วนผสม
เนื้อหมูติดกระดูก (พ็อคชอพ) 1 ชิ้น
น้ำมันมะกอก 1-2 ช้อนโต๊ะ
แครอท 1/2 หัว
บร็อกโคลี 3-4 ช่อ
ถั่วหวาน 5 ฝัก
พาร์สเล่สับ 1 ช้อนชา
พริกไทยป่น, เกลือป่น เล็กน้อย
ผักสลัดตามชอบ
บราวน์ซอส
วิธีทำ

1. ลวกแครอท บร็อกโคลี ถั่วหวาน พอสุกตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำแล้วนำลงผัดกับน้ำมันมะกอก ตักขึ้น

2. โรยเกลือป่น พริกไทยป่น พาร์สเลสับบนชิ้นหมู นำลงกริลล์ในกระทะที่มีน้ำมันมะกอกเล็กน้อย พอสุกตักขึ้น

3. จัดเสิร์ฟคู่กับผักลวกน้ำมันมะกอก ผักสลัด ราดด้วยบราวน์ซอส

ส่วนผสมบราวน์ซอส (Brown Sauce)
กระดูกวัว - เศษเนื้อวัว 1 กิโลกรัม
น้ำมันพืช 1/4 ถ้วยตวง
หอมใหญ่สับหยาบ 1/2 ถ้วยตวง
แครอทสับหยาย 1/2 ถ้วยตวง
ก้านขึ้นฉ่ายฝรั่งสับหยาบ 1/4 ถ้วยตวง
ก้านผักชีฝรั่งหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งสาลี 2-3 ช้อนโต๊ะ
เนื้อมะเขือเทศเข้มข้น (Tomato Paste) 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ
โรสแมรี่ 1 ช้อนชา
ใบกระวาน 3-4 ใบ
ไทม์ 1/2 ช้อนชา
น้ำสต๊อกสีน้ำตาล 10 ถ้วยตวง
ครีมข้น 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น
พริกไทยป่น
วิธีทำ

1. อบกระดูกวัวและเศษเนื้อวัวให้เหลืองเข้มเป็นสีน้ำตาล

2. ผัดหอมใหญ่ แครอท ก้านขึ้นฉ่ายและก้านผักชีฝรั่งกับน้ำมันพืช พอผักเริ่มนิ่มใส่แผ้งสาลีผัดด้วยไฟอ่อนให้แป้งเป็นสีน้ำตาล ใส่เนื้อมะเขือเทศเข้มข้นผัดต่อจนกระทั่งแห้งและมีสีน้ำตาลเข้มขึ้น ใส่พริกไทยดำ โรสแมรี่ ใบกระวาน ไทม์ กระดูกวัวและเศษเนื้อวัวที่อบไว้ ผัดให้เข้ากัน เติมน้ำสต๊อกเคี่ยวต่อจนกระทั่งงวดเหลือประมาณ 2 1/2 -3 ถ้วยตวง ยกลงกรองเอาเฉพาะน้ำซอส จะได้ซอสสีน้ำตาลข้นๆ

3. นำซอสที่ได้ขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง ปรุงรสด้วยเกลือป่น พริกไทยป่นและครีมข้น

4. จัดเสิร์ฟกับสเต็กหมู

ปูห่อเนื้อหอม


เครื่องปรุง
เนื้อปลา 150 กรัม
เนื้อปูแกะ 100 กรัม
เกลือ 1 ช้อนชา
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทย 1 ช้อนชา
หอมใหญ่ซอย 1 หัว
เนย 1 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
ฟองเต้าหู้สดสำหรับห่อ
น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
1. ปั้นเนื้อปลาและเนื้อปู พร้อมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน
2. นำมาห่อด้วยแผ่นฟองเต้าหู้ขนาดตามชอบ นำไปทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟพร้อมพร้อมน้ำจิ้มตามชอบ

ปลานึ่งเต้าเจี้ยว


ส่วนผสม


ปลาจะระเม็ดขาว 1 ตัว
เต้าเจี้ยว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป 1/2 ถ้วย
เห็ดหอมแช่น้ำหั่นบางๆ 2 ดอก
เนื้อหมูบดปรุงรส 1/4 ถ้วย
กะหล่ำปลีสด 1/2 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว น้ำมันงา และพริกไทยสำหรับปรุงรส
ก้านต้นหอม และพริกชี้ฟ้าแดงซอยสำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

1. ล้างปลาให้สะอาด บั้งให้สวยงาม และเรียงใส่ภาชนะสำหรับนึ่ง

2. ผสมเต้าเจี้ยว น้ำซุป ปรุงรส ผสมให้เข้ากัน เติมเนื้อหมูบดปรุงรสและเห็ดหอม

3. เทส่วนผสมในข้อ 2 ลงบนตัวปลา นำไปนึ่งจนสุก

4. เติมกะหล่ำปลีลวก โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยฝอย พริกชี้ฟ้าแดง และน้ำมันงา เสิร์ฟทันที

ซี่โครงหมูอบ


ส่วนผสม
ซี่โครงหมู เลือกอ่อนๆและเนื้อมาก 1/2 กิโลกรัม
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนชา
น้ำมันงา 1 ช้อนชา
ซอสห้อยสินเจียง 1 1/2 ช้อนโต๊
พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำมันหอย 1 ช้อนชา
เหล้าจีนสำหรับทำอาหาร 1 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
ต้นผักกวางตุ้งอ่อน 20ยอด
พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด
ซีอิ๊วดำอย่างข้น 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนชา


วิธีทำ

1. ล้างซี่โครงหมูให้สะอาด เอาเศษกระดูกออกใส่ชามอ่างไว้ผสมซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย น้ำมันงา ซอสห้อยสินเจียง พริกไทยป่น น้ำมันหอย เคล้าให้เข้ากัน

2. เอาซี่โครงหมูลงหมัก ประมาณ 1 ชั่วโมง จึงตักใส่ถาดที่จะอบ

3. เติมน้ำเปล่าประมาณ 1/2 ถ้วยตวง นำเข้าเตาอบประมาณ 25 นาที ก็จะสุก อบไฟกลาง เวลาอบหมั่นกลับซี่โครงหมูจะได้เหลืองทั่ว ตักใส่จาน

4. เอาน้ำใส่หม้อไม่ต้องมากกะพอท่วมผัก ใส่น้ำตาลทรายนิดหน่อย พอเดือดเอาผักกวางตุ้งลงลวกน้ำเดือด คนพอสุกทั่วเอาตะแกรงโปร่งๆตักขึ้น แช่น้ำเย็นแล้วเอาขึ้นวางข้างซี่โครงหมู5. จิ้มกับซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำส้มสายชูและพริกชี้ฟ้า

การทำน้ำสต๊อคแต่ละประเภท

น้ำสต็อค (Stock) หรือน้ำต้มกระดูก
การทำน้ำต้มกระดูกไว้ใช้เองในบ้านมีวิธีการง่ายๆ คือ ใช้กระดูก เศษเนื้อและผัก ใส่หม้อต้มเคี่ยวในน้ำด้วยไฟอ่อนๆจนกระทั่งสารอาหารจากเนื้อถูกสกัดออกมาในน้ำ แล้วกรองทำให้เย็นแล้วช้อนเอาไขมันออก น้ำสต็อกที่ได้นี้จะเป็นพื้นฐานในการทำซุปและซอสมากมายหลายชนิด สิ่งที่จะต้องให้ความสนใจคือ การเลือกเครื่องปรุงที่จะนำมาทำน้ำสต็อค ควรรู้ว่าสต็อคนั้นจะนำไปทำอะไร เช่น
//น้ำสต็อคขาว (White Stock) ใช้ทำครีมซุป ซุปใส เป็นต้น ไม่นิยมนำกระดูกแกะมาทำน้ำสต็อค เพราะกลิ่นไม่น่ารับประทาน รสชาติและความเข้มข้นของน้ำสต็อคขึ้นกับปริมาณกระดูก เศษเนื้อ น้ำที่ใช้ต้มตลอดจนเครื่องเทศและเวลาที่ใช้เคี่ยวข้อสำคัญในการทำน้ำสต็อคคือ การใช้เศษกระดูก เศษผักที่สด และล้างให้สะอาด สัดส่วนพอดีกับน้ำ ควรใช้น้ำเย็นและใช้เวลาเคี่ยวนานๆ ไฟอ่อนๆ ควรเก็บในภาชนะที่มีฝาปิดและเก็บในตู้เย็น หากเก็บในที่อุ่นน้ำสต็อคจะเสียเร็ว มีรสเปรี้ยว ถ้าน้ำสต็อคขุ่นไม่ใสให้ใช้ไข่ขาวกับเปลือกไข่ใส่ลงไป คนสักครู่ยกลง กรอง จะได้น้ำสต็อคใสขึ้นกว่าเดิมน้ำสต็อคมีชื่อเรียกตามกระดูกสัตว์ที่นำมาใช้และวิธีการทำ เช่น น้ำสต็อคไก่ทำมาจากกระดูกไก่ น้ำสต็อคเนื้อทำมาจากกระดูกเนื้อ หากนำกระดูกหมูไปอบจนเหลืองทั่วแล้วนำมาต้มจะเรียกน้ำสต็อคสีน้ำตาล ดังนั้นน้ำสต็อคจะจำแนกได้เป็น 5 ชนิด คือ
1. น้ำสต็อคสีน้ำตาล (Brown Stock)เป็นน้ำต้มกระดูกที่มีสีน้ำตาล ได้จากการอบกระดูกก่อนนำมาเคี่ยว และใส่ผัก เช่น หอมหัวใหญ่ แครอท มีเครื่องเทศคือ พริกไทยเม็ด ต้นกระเทียมและเกลือ
2. น้ำสต็อคสีขาว (White Stock)ได้จากการเอากระดูกดิบๆมาต้ม เช่นอาจะเป็นกระดูกหน้าแข้งหมู วัว กระดูกสันหลังหรือกระดูกซี่โครงก็ได้ เคี่ยวรวมกับเครื่องเทศและผักซึ่งเหมือนกับสต๊อคสีน้ำตาล กระดูกที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นกระดูกจากสัตว์ใหญ่
3. น้ำสต็อคปลา (Fish Stock)เป็นน้ำต้มกระดูกปลา อาจได้จากส่วนครีบหรือหางที่เราตัดออก และกระดูกกลางหลังของปลา เมื่อเราแร่เนื้อปลาเป็น 2 ชิ้น ซึ่งจะมีเนื้อปลาติดอยู่บ้าง หรือจะใช้หัวปลา ปลาที่ใช้นิยมใช้ปลาตาเดียว หรือปลาจำพวกปลาลิ้นหมาซึ่งมีตัวแบน ต้มกับหอมหัวใหญ่ ผักชีฝรั่ง และพริกไทยเม็ด น้ำสต็อคปลานิยมใช้ทำซอสราดเนื้อปลา
4. น้ำสต็อคไก่หรือนกป่า (Chicken Stock or Game Bird)ใช้ซี่โครงไก่ ไก่งวงหรือนกป่า รวมทั้งเครื่องในของมันด้วยมาต้ม เคี่ยวให้น้ำใส ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง อาจใช้เฉพาะส่วนขา ปีก ก็ได้
5. น้ำสต็อคผัก (Vegetable Stock)หรือน้ำต้มผัก เพราะเครื่องปรุงทั้งหมดเป็นผัก นำมาต้ม สกัดเอาความหวานของผักออกมา ฉะนั้นผักที่ใช้ต้องไม่มีรสขม เขามักใช้ หอมหัวใหญ่ แครอท ก้านขึ้นฉ่าย ต้นกระเทียม กะหล่ำปลี ก้านกะหล่ำดอก พาสนิป (Parsnip) ซึ่งมีลักษณะคล้ายหัวผักกาดขาว ชนิดของผักนี้แล้วแต่ว่าจะทำน้ำต้มผักอะไร จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยน้ำสต็อคทุกชนิดจะต้องมีการกรองเสียก่อนที่จะนำไปใช้

พาสต้าแฮมชีส


ส่วนผสม
เส้นพาสต้าต้มสุก 425 กรัม
หอมหัวใหญ่สับ 1 หัว
กระเทียมสับ 2 หัว
เห็ดฟางต้มสุก 100 กรัม
ไวน์ขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุปไก่ 1/2 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
พาเมซานชีส 1 ถ้วย
แฮมแผ่นหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 175 กรัม
วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1. ผัดหอมหัวใหญ่ กระเทียมที่สับไว้ในน้ำมันมะกอกพอมีกลิ่นหอม ใส่ไวน์ขาว ผัดให้เข้ากัน

2. ใส่แฮม เห็ดฟาง ซีอิ๊วขาว วิปปิ้งครีม น้ำซุปไก่ คนให้เข้ากัน

3. ใส่เส้นพาสต้า พาเมซานชีส ผัดให้ทุกอย่างเข้ากัน นำขึ้นตักใส่จาน จัดเสิร์ฟขณะร้อน


Tips

1. เส้นพาสต้าที่ใช้อาจเป็นพาสต้าที่ผสมด้วยแป้งโฮลวีท จะได้คุณค่าทางโภชนาการเพิ่มขึ้น

2. สามารถเปลี่ยนแฮมเป็นเนื้อสัตว์อื่นได้ตามชอบ เช่น หมู ไก่ หรืออาหารทะเล

3. ขณะที่ผัดจะมีลักษณะน้ำขลุกขลิก เมื่อเย็นแล้วจะมีลักษณะข้นขึ้นอีกเล็กน้อย

4. รสชาติมัน เค็ม กลมกล่อม

พายเลมอนอย่างง่าย



ส่วนผสม 1 ปอนด์


-คุกกี้วานิลลาตามชอบ 250 กรัม
-เนยเหลว 60 กรัม
-ไข่ขาว 3 ฟอง
-น้ำตาลทรายละเอียด 175 กรัม
-แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
-ครีมคัสตาร์ดสำเร็จรูป 1 ถ้วย
-น้ำมะนาวคั้นสด 4 ช้อนโต๊ะ
-ผงเจลาติน 15 กรัม
-กลิ่นเลมอนตามชอบ
-แยมเลมอน
-อัลมอนขูดตามชอบ

วิธีทำ

1. บดคุกกี้ให้ละเอียดนำมาเคล้ากับเนยเหลวเคล้าให้เข้ากัน

2. จากนั้นนำไปใส่ลงในพิมพ์กดให้แน่นเตรียมไว้ ผสมครีมคัสตาร์ด ไข่ขาว น้ำตาล แป้งผงเจลาติน น้ำมะนาว และกลิ่นเข้าด้วยกันแล้วตีจนขึ้นฟู

3. นำมาเทลงบนพิมพ์คุกกี้นำเข้าอบด้วยความร้อน 350 ํF ประมาณ 15 นาทีจนสุก

4. พักให้เย็นลงก่อนทาด้วยแยมเลมอนนำไปแช่ให้เย็น พร้อมเสิร์ฟ

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ปลาทับทิมม้วนผัดน้ำมันหอย


ส่วนผสม
ปลาทับทิม 1 ตัว
แครอทหั่นเป็นแท่งยาว ลวกพอสุก 1 หัว
หน่อไม้ฝรั่งตัดเป็นท่อนๆ ลวกพอสุก 5 ต้น
เกลือ 2 ช้อนชา
น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมัน 1/4 ถ้วย
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๋วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทย 1 ช้อนชา
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1. ขอดเกล็ดปลาทับทิมให้สะอาด ควักเอาไส้ออกล้างให้สะอาด

2. แล่ปลาเป็นแผ่นตามยาวของตัวปลาจนหมด นำเกลือใส่เคล้ากับปลาให้ทั่ว

3. นำปลา 1 ชิ้น วางด้วยแครอท หน่อไม้ฝรั่ง ม้วนปลาให้แน่น มัดหัวท้าย นำปลาไปนึ่งพอสุกยกลงจัดในจาน

4. นำน้ำมันใส่กระทะพอร้อน ใส่กระเทียมผัดให้หอม ใส่น้ำมันหอย ซีอิ๋วขาว น้ำตาลทราย พริกไทย ซอสปรุงรส ชิมรส เมื่อรสดีแล้วตัดราดบนปลาที่ม้วนแล้วให้สวยงาม

ฟรุตเค้กแบบง่ายๆๆๆ

ส่วนผสม
แป้งสำหรับทำเค้ก 3 1/2 ถ้วยตวง
เนยสด 1 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 2/3 ถ้วยตวง
เกลือ 1 1/2 ช้อนชา
นมสดระเหย 2/3 ถ้วยตวง
เอ็มเพล็กซ์ 1 1/2 ช้อนชา
ไข่ไก่ 6 ฟองผงฟู 1 1/2 ช้อน
โต๊ะผลไม้เชื่อมแห้งหั่นชิ้นเล็กคลุกแป้งให้ทั่ว (สับปะรด เชอร์รี่เขียว-แดง ฟักเชื่อม กล้วยตาก เปลือกส้มโอ มะตูม ฯลฯ เป็นต้น) 1 3/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. ผสมแป้ง เนยสด น้ำตาลทราย เกลือ นมสดระเหย และเอ็มเพล็กซ์ลงในอ่าง ผสมตีด้วยเครื่องตี ความเร็วปานกลาง ประมาณ 5 นาที หมั่นปาดข้างอ่างผสมและที่ตีอย่างสม่ำเสมอ
2. ต่อยไข่ใส่ลงไป ตีด้วยความเร็วปานกลางอีกประมาณ 2 นาที
3. เติมผงฟู แล้วตีดัวยความเร็วต่ำอีกประมาณ 2 นาที
4. ใส่ส่วนผสมของผลไม้ คนให้ทั่ว
5. เทลงพิมพ์ที่ทาเนยและโรยด้วยแป้งจนทั่ว นำเข้าอบไฟประมาณ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 35-40 นาที หรือจนกระทั่งสุก หมายเหตุเอ็มเพล็กซ์เป็นสารที่ช่วยให้ขนมขึ้นฟูเช่นเดียวกับ เอส.พี. มีขายตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ทั่วไป

หมี่กรอบผัดพริกไทยดำ


ส่วนผสม
เนื้อหมูหั่นชิ้นเล็ก 300 กรัม
เส้นหมี่แห้ง 200 กรัม
เต้าหู้แข็ง 100 กรัม
กุ้งสด 200 กรัม
น้ำมันพืชสำหรับทอด 1 ขวด
น้ำตาลทราย 220 กรัม
เต้าเจี้ยวโขลกละเอียด 50 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำปลา 50 กรัม
น้ำตาลปี๊บ 160 กรัม
น้ำส้มสายชูสำหรับแช่เส้นหมี่ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 50 กรัม
รากผักชี 5 ราก
กระเทียม 10 กลีบ
พริกไทยดำ 2 ช้อนชา
กระเทียมดองหั่นละเอียด 2 หัว
น้ำมันสำหรับผัด 3 ช้อนโต๊ะ
พริกแดง 10 กรัม
ผักชีเด็ดเป็นใบๆ
ถั่วงอก 300 กรัม
ต้นกุยช่าย 160 กรัม


วิธีทำ

1. โขลกกระเทียม พริกไทย รากผักชี ให้ละเอีย

2. หั่นเต้าหู้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ตากแดดให้แห้ง ทอดให้เหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน

3. นำเส้นหมี่แช่ในน้ำเปล่าพอท่วมแล้วเติมน้ำส้มสายชู ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำพอหมาด นำไปคลุกกับน้ำมันให้ทั่ว เทน้ำมันใส่กระทะมากๆ ตั้งไฟให้ร้อนจัด หยิบเส้นหมี่มาทีละน้อยโรยลงในกระทะน้ำมัน พอเหลืองทั่วดีตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน วางบนกระดาษซับน้ำมัน

4. ล้างกุ้ง ปอกเปลือก ผ่าหลังดึงเส้นดำออก

5. ต่อยไข่ตีให้เข้ากัน เทใส่กระชอบ โรยลงในน้ำมันให้เป็นฝอย พอเหลืองทั่วดี ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน

6. รวนหมูและกุ้งทีละอย่างจนแห้งมากๆ

7. นำน้ำมันใส่กระทะตั้งไฟ พอร้อน ใส่เครื่องที่โขลกผัดให้หอม ใส่น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะนาว ลงไปผัดจนน้ำตาลทรายละลาย เคี่ยวไฟอ่อนจนเหนียวเล็กน้อย ใส่หมูและกุ้งลงไป ผัดให้เข้ากันดี ใส่เส้นหมี่ลงไปคลุกให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ โรยหน้าด้วยกระเทียมดอง ไข่ฝอย ผักชี กินกับผัก เช่น ถั่วงอก ต้นกุยช่าย

ผัดเปรี้ยวหวาน


ส่วนผสม
พริกหยวก หรือพริกหวาน 2 ผล
แตงกวา 3 ผล
สับปะรด 1/4 ผล
กระหล่ำปลีหรือกระหล่ำดอก 1 หัว
มะเขือเทศ 2 ผลใหญ่
เต้าหู้ขาวอย่างแข็งตัดพอคำ 1 แผ่น

เครื่องปรุง

น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

เกลือ 1 ช้อนชา

งาคั่วบดแล้ว 1 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1. ล้างแตงกวาผ่าสี่ตัดครึ่ง พริกหยวกผ่าครึ่งเป็นเสี้ยว 1/4 นิ้ว

2. ปอกเปลือกสับปะรดเอาไส้ออก หั่นเป็นชิ้น 1 นิ้ว

3. ใส่งาคั่วผัดให้หอม ใส่เต้าหู้ผัดพอเหลือง ใส่พริกหยวก กระหล่ำผัดพอนุ่มใส่สับปะรด ใส่แตงกวา

4. ใส่มะเขือเทศผ่าเป็นเสี้ยว 1/2 นิ้ว ใส่ซีอิ๊วขาว เกลือ น้ำตาล ผักสุกตักออกใส่จาน รับประทานร้อนๆ จึงจะอ